Post#2-235:
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมานี้เอง ผมมึนอยู่พักใหญ่ๆ กับการประชุมกับทีมงาน
เหตุเพราะตัวละครในการประชุมมาไม่พร้อมกัน ก็เลยเกิดเหตุการณ์คนนั้นพูดที คนนี้พูดอย่าง เราคนที่อยู่ตรงกลางเลยเกิดอาการ "มึน" ว่าตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
แน่นอนครับ ว่าหลังจากอดรนทนอยู่ได้ไม่นาน ผมก็ต้องเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาคุยกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ใครมีอะไรที่เข้าใจคลาดเคลื่อน (ไม่ว่าจะคลาดเคลื่อนโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม) ก็จะได้คุยกันให้เข้าใจทีเดียว
ความจริงผมเกลียดสถานการณ์แบบนี้ค่อนข้างมาก เพราะนอกจากทำให้เสียเวลาทำงานแล้ว ยังอาจเป็นปมให้เกิดความไม่พอใจระหว่างหน่วยงานได้อีกด้วย
...
เมื่อมีคนสองฝ่ายที่เข้าใจไม่ตรงกัน ย่อมต้องมีฝ่ายหนึ่งเข้าใจผิด (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจหรือไม่) และย่อมต้องมีฝ่ายที่สร้างความเข้าใจผิด (แน่นอนครับ ว่ามีทั้งตั้งใจจะสร้างความเข้าใจผิดนั้นขึ้น และโดยไม่ตั้งใจจริงๆ ก็มี)
โดยมากแล้ว ผมมักจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาทำความเข้าใจพร้อมกัน และเมื่อผมอธิบายจบแล้ว จะให้ทั้งสองฝ่ายไปคุยกันเอง ก่อนที่จะเข้ามาสรุปกับผมพร้อมๆ กันอีกครั้ง
ทำแบบนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายไปเคลียร์กันก่อน เป็นการให้หน้าและให้โอกาสปรับความเข้าใจกันเองก่อน
ถ้าผ่านไปได้ด้วยดี ก็เป็นอันว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีใครเสียหน้า แต่ถ้าเคลียร์กันเองไม่ได้ ก็เป็นหน้าที่ที่ผมต้องมาชำระความต่อไป
บ่อยครั้งที่การทำงานมักเจอปัญหาแบบนี้ ความเข้าใจผิดต่างๆ อาจถูกทำให้เกิดขึ้นได้จากหลายเหตุผลและหลากเจตนา
...
ใครที่อยู่ในฐานะเจ้านาย พึงระวังจะเป็น "เหยื่อ" ของสถานการณ์ และต้องพยายามพลิกจากสถานภาพ "เหยื่อ" ให้กลายเป็น "ผู้ควบคุมเกม" ให้ได้
ก็ขอให้ลูกน้องทั้งหลายสามัคคีกันไว้ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เอาเวลาไปทำงานมากกว่าจะจ้องทำร้ายกันเอง
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่อง classic ของการเมืองในที่ทำงานจริงๆ ครับ...
Comments
Post a Comment