Post#3-29:
หนึ่งในความจริงที่ส่วนใหญ่ของคนที่ขับรถเป็นมักจะประสบด้วยตัวเองก็คือ การจดจำเส้นทาง
ถ้าต้องไปในเส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อน แล้วต้องโทรถามทาง ก็จะต้องใช้เวลาพักใหญ่ๆ จึงจะคลำทางไปต่อได้ ถึงกระนั้นก็ต้องโทรถามทางเลี้ยวซ้ายวนขวาให้วุ่นวาย
ดีขึ้นมานิด ถ้าเพื่อน share location มาให้ ซึ่งก็ทำให้เราสามารถดูเส้นทางการเดินทางได้ชัดเจน
และดีที่สุด หากว่าเราจะมีใครสักคนที่รู้เส้นทางอยู่บนรถด้วย
คำถามมีอยู่ว่า วิธีไหนใน 3 วิธีข้างต้น จะทำให้เราจดจำเส้นทางได้ดีที่สุด หากจะต้องไปยังที่หมายเดิมอีกครั้ง โดยปราศจากตัวช่วย?
...
ไม่แน่ใจว่าเด็กรุ่นใหม่ๆ สมัยนี้ จะเคยได้ยินที่คำโบราณว่าไว้ว่า "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ" กันรึเปล่านะครับ?
แต่กรณีของการจดจำเส้นทางข้างต้นนั้น เป็นตัวอย่างของคำพังเพยที่ว่าได้เป็นอย่างดี
ฟังเค้าเล่าต่อๆ กันมา หรือจะดีเท่าการไปเห็นด้วยตาตัวเอง และแน่นอนว่า...ดีกว่าการไปเห็น ย่อมหมายถึงการมีประสบการณ์ร่วมในสิ่งนั้น
...
ให้บังเอิญว่า คำพังเพยของเราก็ไปพ้องกับวาทะแห่งจอมปราชญ์ที่ชื่อ "ขงจื้อ" เข้าให้พอดี...วาทะนั้นมีอยู่ว่า
"I hear and I forget.
I see and I remember.
I do and I understand."
แปลว่า
"ฉันได้ยิน แล้วฉันก็ลืม
ฉันเห็น และฉันจึงจดจำ
ฉันลงมือทำ ฉันจึงเข้าใจ"
...
โดยมากแล้ว คนที่ขับรถเอง ย่อมจะจดจำเส้นทางต่างๆ ได้ดีกว่า คนที่นั่งอยู่ในรถในฐานะผู้โดยสาร
คนที่ขับรถเอง ก็คือผู้ลงมือปฏิบัติ...ในขณะที่ผู้โดยสาร ก็เปรียบได้กับคนที่เพียงได้เห็นเส้นทาง
เทียบเวลาที่ต้องใช้ในการจดจำเส้นทางแล้ว...เราคิดว่าใครจะจำเส้นทางได้เร็วกว่ากันครับ?
...
เมื่อเรายังไม่เคยรู้จักเส้นทาง ย่อมเป็นการดีที่เราจะโทรถามทาง
หากเป็นไปได้...ย่อมดีแน่ ถ้าได้มีโอกาสติดรถไปกับผู้ชำนาญเส้นทาง
แต่เราจะไม่หลงทางอีกแน่ๆ หากแม้นได้ขับรถไปยังจุดหมายด้วยตนเองสักครา...
แม้จะหลงในคราแรกๆ แต่มิใช่เพราะหลงเส้นทางไปบ้างล่ะหรือ จึงทำให้เราจดจำเส้นทางที่ถูกได้อย่างแม่นยำ หรือบางครั้งนำเราไปสู่เส้นทางใหม่ที่พาเราไปยังจุดหมายได้เช่นกัน
หนึ่งในความจริงที่ส่วนใหญ่ของคนที่ขับรถเป็นมักจะประสบด้วยตัวเองก็คือ การจดจำเส้นทาง
ถ้าต้องไปในเส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อน แล้วต้องโทรถามทาง ก็จะต้องใช้เวลาพักใหญ่ๆ จึงจะคลำทางไปต่อได้ ถึงกระนั้นก็ต้องโทรถามทางเลี้ยวซ้ายวนขวาให้วุ่นวาย
ดีขึ้นมานิด ถ้าเพื่อน share location มาให้ ซึ่งก็ทำให้เราสามารถดูเส้นทางการเดินทางได้ชัดเจน
และดีที่สุด หากว่าเราจะมีใครสักคนที่รู้เส้นทางอยู่บนรถด้วย
คำถามมีอยู่ว่า วิธีไหนใน 3 วิธีข้างต้น จะทำให้เราจดจำเส้นทางได้ดีที่สุด หากจะต้องไปยังที่หมายเดิมอีกครั้ง โดยปราศจากตัวช่วย?
...
ไม่แน่ใจว่าเด็กรุ่นใหม่ๆ สมัยนี้ จะเคยได้ยินที่คำโบราณว่าไว้ว่า "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ" กันรึเปล่านะครับ?
แต่กรณีของการจดจำเส้นทางข้างต้นนั้น เป็นตัวอย่างของคำพังเพยที่ว่าได้เป็นอย่างดี
ฟังเค้าเล่าต่อๆ กันมา หรือจะดีเท่าการไปเห็นด้วยตาตัวเอง และแน่นอนว่า...ดีกว่าการไปเห็น ย่อมหมายถึงการมีประสบการณ์ร่วมในสิ่งนั้น
...
ให้บังเอิญว่า คำพังเพยของเราก็ไปพ้องกับวาทะแห่งจอมปราชญ์ที่ชื่อ "ขงจื้อ" เข้าให้พอดี...วาทะนั้นมีอยู่ว่า
"I hear and I forget.
I see and I remember.
I do and I understand."
แปลว่า
"ฉันได้ยิน แล้วฉันก็ลืม
ฉันเห็น และฉันจึงจดจำ
ฉันลงมือทำ ฉันจึงเข้าใจ"
...
โดยมากแล้ว คนที่ขับรถเอง ย่อมจะจดจำเส้นทางต่างๆ ได้ดีกว่า คนที่นั่งอยู่ในรถในฐานะผู้โดยสาร
คนที่ขับรถเอง ก็คือผู้ลงมือปฏิบัติ...ในขณะที่ผู้โดยสาร ก็เปรียบได้กับคนที่เพียงได้เห็นเส้นทาง
เทียบเวลาที่ต้องใช้ในการจดจำเส้นทางแล้ว...เราคิดว่าใครจะจำเส้นทางได้เร็วกว่ากันครับ?
...
เมื่อเรายังไม่เคยรู้จักเส้นทาง ย่อมเป็นการดีที่เราจะโทรถามทาง
หากเป็นไปได้...ย่อมดีแน่ ถ้าได้มีโอกาสติดรถไปกับผู้ชำนาญเส้นทาง
แต่เราจะไม่หลงทางอีกแน่ๆ หากแม้นได้ขับรถไปยังจุดหมายด้วยตนเองสักครา...
แม้จะหลงในคราแรกๆ แต่มิใช่เพราะหลงเส้นทางไปบ้างล่ะหรือ จึงทำให้เราจดจำเส้นทางที่ถูกได้อย่างแม่นยำ หรือบางครั้งนำเราไปสู่เส้นทางใหม่ที่พาเราไปยังจุดหมายได้เช่นกัน
Comments
Post a Comment