Skip to main content

Post#3-30: "แม่งาน" ผู้ปิดทองหลังพระ

Post#3-30:
วันนี้หนึ่งในบริษัทของผมมีงานเปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ ชื่อ Angel Kiss by Praya Lundberg (ของคุณปู ไปรยา) ที่ Central World

เราใช้เวลาเตรียมงานล่วงหน้ากันมาเป็นเดือน เพื่อให้งานเพียงไม่กี่ชั่วโมงออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

ทั้งหมดเพื่อให้ทั้งสื่อมวลชนและแขกที่มาร่วมงานทุกท่านรู้สึกได้ถึงความพิเศษของน้ำหอมที่เราร่วมทำงานหนักกับคุณไปรยา เพื่องานในวันนี้

...

ในการทำงานในสายงาน Cosmetic เราจึงมีงานเปิดตัวหรืองาน event แบบนี้ ค่อนข้างบ่อย

และแน่นอนว่าทุกๆ ครั้งที่มีงานลักษณะนี้ คงขาดไม่ได้ที่เราจะต้องมี "แม่งาน" ที่เก่ง, เข้าใจ, ขยัน และทุ่มเท

ไม่ใช่แต่เฉพาะกับบริษัทฯ ของผม แต่หมายรวมถึงทุกบริษัทฯ ที่จะต้องขอบคุณ "แม่งาน" มากเป็นพิเศษ

หากขาด "แม่งาน" ไป งานลักษณะแบบนี้จะเต็มไปด้วยความทุลักทุเลและขาดความเป็นเอกภาพ

...

นอกเหนือไปจาก "แม่งาน" แล้ว ผมก็อยากจะขอบคุณทีมงานทุกคนมากๆ เช่นกัน...มันเป็นอีกวันที่ทุกคนร่วมกันแสดงพลังทีมให้ได้เห็น

แม้เราอาจจะจ้าง Organizer ให้ทำงานทั้งหมดโดยลำพังได้ แต่หากปราศจากการมีส่วนร่วมของทีมงาน บรรยากาศในงานอาจจะต่างออกไป

แขกที่มาร่วมงาน คงจะรู้สึกแปลกๆ หากจะมาร่วมงานแล้วไม่รู้จักใครสักคน

งานแบบนี้ จึงต้องอาศัย Organizer มือดี และทีมงานที่ร่วมใจ จึงจะทำให้เป็นงานเปิดตัวที่น่าจดจำได้

...

เราเปิดตัวน้ำหอม Angel Kiss พร้อมคุณไปรยาที่ฉายแสงเจิดจรัสอยู่บนเวที แต่ผมแอบลอบมองสีหน้าของทีมงาน และได้เห็น Angel Smile อยู่บนใบหน้าของพวกเค้าเช่นกัน

ท้ายนี้ ก็ขอขอบคุณ Organizer สำหรับงานคุณภาพ, สื่อมวลชนทุกท่าน และที่สำคัญที่สุด ก็ต้องกราบขอบคุณท่านแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่กรุณาสละเวลามา และอีกหลายท่านที่พยายามฝ่าการจราจรมาแต่มาไม่ทัน

หากไม่มีพวกท่านมาร่วมงาน...ที่พวกผมเฝ้าปราณีตบรรจงจัดงานก็คงไร้ค่า

ขอบคุณครับ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...