Post#3-47:
แน่นอนที่สุดครับว่า ชีวิตของคนเราย่อมมีขึ้นมีลง...บางครั้งก็รุ่งเรือง และบางครั้งก็ตกต่ำ
บางวันเราสุดแสนจะมีความสุข ในขณะที่บางวันเราจมจ่อมอยู่ในห้วงทุกข์...และหลายต่อหลายครั้ง เช้าเราสุข บ่ายเราเศร้า แต่เข้านอนกลับมายิ้มได้...ก็มี
ชีวิตจะมีความสุขหรือไม่ คงไม่ได้อยู่ที่ใคร...แต่มันอยู่ที่ว่าเราคิดได้รึเปล่า และเราปล่อยวางเป็นมั๊ย?
...
ผมเคยแชร์ให้ฟังแล้ว...ว่าความสุขไม่ใช่ปลายทางแต่เป็นรายทาง (Post#2-13) ดังนั้นเราจึงไม่ควรตั้งเป้าจะแสวงหาความสุข หากแต่ต้องตั้งเป้าที่จะใช้ชีวิตที่มีความสุข
และหนทางที่เราจะใช้ชีวิตที่มีความสุขได้ ล้วนเริ่มต้นจากวิธีคิดของเราทั้งสิ้น...คิดได้เมื่อไหร่ เราก็เป็นสุขเร็วขึ้นเท่านั้น
คนเราเกิดมาพร้อมความทุกข์...แปลว่า มันจึงเป็นการเปล่าประโยชน์ที่จะวิ่งหนีความทุกข์
ที่เราควรทำจึงเป็นการค้นหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกับความทุกข์อย่างสันติ...มากกว่า
...
คนที่มีความสุขนั้น หาใช่คนที่เกิดมาไม่เคยพบกับความทุกข์ หากแต่ใครคนนั้น ค้นพบวิธีที่จะใช้ชีวิตร่วมกับความทุกข์ได้ดี ต่างหาก
เฉกเช่นเดียวกับคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งมิใช่ผู้ไม่เคยพลาดหวัง หากแต่เป็นผู้ซึ่งล้มเหลวมามากมายกว่าจะประสบความสำเร็จได้ ต่างหาก
...ช่างตรงกับที่ใครคนหนึ่งได้กล่าวไว้...
"Life has many different chapters. One bad chapter doesn't mean it's the end of the book."
แปลว่า "ชีวิตนั้น ก็เปรียบได้กับหนังสือที่มีหลากหลายบทตอน และการที่เปิดไปเจอบทตอนหนึ่งที่แย่ ก็ไม่ได้หมายความว่า มันเป็นบทตอนสุดท้ายของหนังสือเสียหน่อย"
...
หากเมื่อวาน...คุณเปิดไปเจอบทตอนที่แย่ และมันทำให้คุณเศร้าสร้อยมาจนวันนี้...คุณอาจต้องเตือนตัวเองใหม่ ว่าบทตอนชีวิตที่ดีกำลังรอคุณพลิกไปอ่าน
หากวันนี้...คุณกำลังอ่านบทตอนที่แย่ และมันทำให้คุณกำลังจะปิดหนังสือ...คุณอาจต้องนึกดูให้ดี ว่านี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณเจอบทตอนที่ย่ำแย่ และคุณก็เคยอ่านมันจนจบได้ หรือแม้มันอาจจะเป็นบทตอนแย่ๆ บทแรกที่คุณเจอ ก็ขอคุณจงกลับไปอ่านย่อหน้าก่อนนี้
หากพรุ่งนี้...คุณกำลังสงสัยว่าบทตอนต่อไปจะดีหรือร้าย...คุณจึงควรต้องรู้สึกตัวได้แล้วว่า คุณนั่นเองคือนักประพันธ์หนังสือเล่มที่คุณกำลังอ่าน...
ดังนั้นมันจะสุขหรือเศร้า...มันจึงล้วนอยู่ที่คุณ ว่าจะประพันธ์มันไว้เช่นไร
...
แม้ว่าเราทุกคนจะอยากรู้ว่า หนังสือที่เราประพันธ์เอง จะมีบทตอนสุดท้ายเป็น Happily ever after หรือเป็น Tragedy...
แต่เราต้องไม่ลืมว่า...ไม่มีนักประพันธ์คนใดที่จะรู้ว่า "บทตอนสุดท้าย" จะมาถึงเมื่อไหร่...
ดังนั้น ระหว่างที่เรายังมีลมหายใจ...เราจึงต้องเขียนทุกๆ บทตอนเป็นอย่างดี...
แม้จะเขียนให้ทุกบทตอนเป็นสุขไม่ได้ทั้งหมด...แต่ตอนเขียนบทตอนที่เศร้า...ควรให้มันเศร้าอย่างมีสติ ฤามิใช่?
Even though life has different chapters...yet,
Life is beautiful
ผมเชื่ออย่างนั้นครับ...
แน่นอนที่สุดครับว่า ชีวิตของคนเราย่อมมีขึ้นมีลง...บางครั้งก็รุ่งเรือง และบางครั้งก็ตกต่ำ
บางวันเราสุดแสนจะมีความสุข ในขณะที่บางวันเราจมจ่อมอยู่ในห้วงทุกข์...และหลายต่อหลายครั้ง เช้าเราสุข บ่ายเราเศร้า แต่เข้านอนกลับมายิ้มได้...ก็มี
ชีวิตจะมีความสุขหรือไม่ คงไม่ได้อยู่ที่ใคร...แต่มันอยู่ที่ว่าเราคิดได้รึเปล่า และเราปล่อยวางเป็นมั๊ย?
...
ผมเคยแชร์ให้ฟังแล้ว...ว่าความสุขไม่ใช่ปลายทางแต่เป็นรายทาง (Post#2-13) ดังนั้นเราจึงไม่ควรตั้งเป้าจะแสวงหาความสุข หากแต่ต้องตั้งเป้าที่จะใช้ชีวิตที่มีความสุข
และหนทางที่เราจะใช้ชีวิตที่มีความสุขได้ ล้วนเริ่มต้นจากวิธีคิดของเราทั้งสิ้น...คิดได้เมื่อไหร่ เราก็เป็นสุขเร็วขึ้นเท่านั้น
คนเราเกิดมาพร้อมความทุกข์...แปลว่า มันจึงเป็นการเปล่าประโยชน์ที่จะวิ่งหนีความทุกข์
ที่เราควรทำจึงเป็นการค้นหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกับความทุกข์อย่างสันติ...มากกว่า
...
คนที่มีความสุขนั้น หาใช่คนที่เกิดมาไม่เคยพบกับความทุกข์ หากแต่ใครคนนั้น ค้นพบวิธีที่จะใช้ชีวิตร่วมกับความทุกข์ได้ดี ต่างหาก
เฉกเช่นเดียวกับคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งมิใช่ผู้ไม่เคยพลาดหวัง หากแต่เป็นผู้ซึ่งล้มเหลวมามากมายกว่าจะประสบความสำเร็จได้ ต่างหาก
...ช่างตรงกับที่ใครคนหนึ่งได้กล่าวไว้...
"Life has many different chapters. One bad chapter doesn't mean it's the end of the book."
แปลว่า "ชีวิตนั้น ก็เปรียบได้กับหนังสือที่มีหลากหลายบทตอน และการที่เปิดไปเจอบทตอนหนึ่งที่แย่ ก็ไม่ได้หมายความว่า มันเป็นบทตอนสุดท้ายของหนังสือเสียหน่อย"
...
หากเมื่อวาน...คุณเปิดไปเจอบทตอนที่แย่ และมันทำให้คุณเศร้าสร้อยมาจนวันนี้...คุณอาจต้องเตือนตัวเองใหม่ ว่าบทตอนชีวิตที่ดีกำลังรอคุณพลิกไปอ่าน
หากวันนี้...คุณกำลังอ่านบทตอนที่แย่ และมันทำให้คุณกำลังจะปิดหนังสือ...คุณอาจต้องนึกดูให้ดี ว่านี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณเจอบทตอนที่ย่ำแย่ และคุณก็เคยอ่านมันจนจบได้ หรือแม้มันอาจจะเป็นบทตอนแย่ๆ บทแรกที่คุณเจอ ก็ขอคุณจงกลับไปอ่านย่อหน้าก่อนนี้
หากพรุ่งนี้...คุณกำลังสงสัยว่าบทตอนต่อไปจะดีหรือร้าย...คุณจึงควรต้องรู้สึกตัวได้แล้วว่า คุณนั่นเองคือนักประพันธ์หนังสือเล่มที่คุณกำลังอ่าน...
ดังนั้นมันจะสุขหรือเศร้า...มันจึงล้วนอยู่ที่คุณ ว่าจะประพันธ์มันไว้เช่นไร
...
แม้ว่าเราทุกคนจะอยากรู้ว่า หนังสือที่เราประพันธ์เอง จะมีบทตอนสุดท้ายเป็น Happily ever after หรือเป็น Tragedy...
แต่เราต้องไม่ลืมว่า...ไม่มีนักประพันธ์คนใดที่จะรู้ว่า "บทตอนสุดท้าย" จะมาถึงเมื่อไหร่...
ดังนั้น ระหว่างที่เรายังมีลมหายใจ...เราจึงต้องเขียนทุกๆ บทตอนเป็นอย่างดี...
แม้จะเขียนให้ทุกบทตอนเป็นสุขไม่ได้ทั้งหมด...แต่ตอนเขียนบทตอนที่เศร้า...ควรให้มันเศร้าอย่างมีสติ ฤามิใช่?
Even though life has different chapters...yet,
Life is beautiful
ผมเชื่ออย่างนั้นครับ...
Comments
Post a Comment