Skip to main content

Post#3-148: เคราะห์ซ้ำกรรมซัด

Post#3-148:
เชื่อว่าทุกคนคงเคยผ่านช่วงที่ดูเหมือนอะไรต่อมิอะไร ก็ไม่เป็นใจอะไรกับเราเลยสักอย่าง

แปลกตรงที่เรื่องร้ายๆ ทั้งหลาย มักให้ต้องบังเอิญ มาประเดประดังเข้าหาเราพร้อมๆ กันเสียอีกด้วย

เช่น ผิดนั่นพลาดนี่, ทะเลาะกับที่บ้าน, แฟนเลิก, หมาป่วย, หุ้นตก, เงินหาย, ยอดขายร่วง, ตกงาน, รถชน และอีกสารพัดเรื่อง

ใครเจอหลายๆ เรื่องเข้าไปพร้อมๆ กันแบบนี้...แม้ไม่ถึงกับล้มทั้งยืน ก็อาจจะมีมึนๆ และซวนเซกันบ้าง

ผมเข้าใจสภาพของคนที่จมทุกข์ได้ดีครับ เพราะผมเองก็เคยผ่านสภาพนั้นมาเช่นเดียวกับหลายๆ คน...มันเป็นธรรมดาโลกจริงๆ (ลองอ่านเพิ่มใน Post#86 นะครับ)

...

ยังไงก็ตามแต่...เมื่อชีวิตยังไม่สิ้น เราคงมีแต่ดิ้นรนต่อสู้กันต่อไปนั่นแหละครับ

เราอาจจะเหนื่อย เราอาจจะท้อ แต่ตราบเท่าที่เราบอกตัวเองว่า เราจะไม่ยอมแพ้ ผมก็เชื่อว่า เราก็มีโอกาสที่จะลุกขึ้นมาสู้ต่อได้

บางครั้งชีวิตก็เป็นแบบนี้ และบางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลกร้ายกับเราแบบนี้ แต่หากเราไม่ถอดใจยอมแพ้ไปเสียก่อน...อย่างไรเสีย ช่วงเวลาร้ายๆ แบบนี้ มันก็จะผ่านไป

...

Paulo Coelho (นักเขียนและนักแต่งเพลงชาวบราซิล) เอง ก็แสดงความเห็นไว้เตือนสติในช่วงที่เราอาจกำลังพบเจอวันเลวคืนร้าย ไว้แบบนี้ครับ

"Life has many ways of testing a person's will, either by having nothing happen at all or by having everything happen all at once."

แปลว่า "ชีวิตมักมีหลากวิธีที่จะทดสอบปณิธานของคนเรา, อาจด้วยการทำให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเราเลย หรืออาจด้วยการให้ทุกสิ่งทุกอย่างมาประเดประดังเกิดขึ้นกับเราพร้อมๆ กัน"

...

ผมไม่อาจบอกให้ใครก็ตามที่กำลังเผชิญเคราะห์กรรมที่ถาโถม ให้เฝ้าแต่มองโลกในแง่ดีได้ เพราะเข้าใจดีว่า ความทุกข์และความเศร้าที่ประดังเข้ามานั้น มันหนักหนาเพียงใด

ผมบอกได้ก็เพียงให้ใครคนนั้น "จงมองโลกในแง่จริง" ด้วยเพราะความทุกข์เองก็จะดำเนินไปตามครรลองของไตรลักษณ์ นั่นก็คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เช่นกัน

แม้เวลาอาจเป็นเหตุแห่งความดับไปแห่งทุกข์ได้...หากแต่ถ้าต้องการดับทุกข์ให้ได้โดยพลันแล้วไซร้...

ต้องดับที่ "ใจ" เท่านั้นครับ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...