Post#3-169:
คาดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก "ความอดทน" อย่างแน่นอนนะครับ...และก็แน่นอนเช่นกันที่นิยามของความอดทนของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป
บ้างก็ต้องอดทนต่อความอยุติธรรม, บ้างก็ต้องอดทนรอคอยโอกาสอะไรบางอย่าง และบ้างก็ต้องอดทนต่อความทุกข์ยากของชีวิต
ขึ้นชื่อว่า "ความอดทน" แล้ว คงเป็นเช่นที่หลวงพ่อจรัญฯ ได้โปรดเทศน์สั่งสอนไว้ว่า ความอดทน คือการ "อด" ในสิ่งที่ชอบ และการ "ทน" ในสิ่งที่ไม่ชอบ
หากแต่ช่วงเวลาแห่งการอดทนนั้น จะยาวนานดุจชั่วกัลป์ หรือจะเหมือนเวลาติดปีกบิน, จะผ่านไปอย่างเศร้าซึม หรือผ่านไปอย่างเริงรื่น...ทุกสิ่งล้วนถูกกำหนดโดยวิธีคิดของเรา
...
Joyce Meyer (นักเขียนและนักพูดชาวอเมริกัน) ว่าไว้ว่า...
"Patience is not an ability to wait, but the ability to keep a good attitude while waiting."
แปลว่า "ความอดทนนั้น มิใช่ความสามารถในการรอคอย แต่เป็นความสามารถในการรักษาทัศนคติเชิงบวกไว้ได้ตลอดชั่วระยะเวลาที่รอคอย ต่างหาก"
...
ผมออกจะชอบวิธีคิดของ Joyce Meyer มากอยู่...ค่าที่มันเตือนใจและให้สติเราได้ดีเหลือเกินว่า ความอดทน ไม่ได้หมายถึงเชิงปริมาณของเวลาเพียงเท่านั้น
หากแต่มันหมายถึง "คุณภาพ" ที่เราต้องรู้จักเติมลงไปในช่วงเวลาแห่งความอดทนนั้นด้วย
คนที่มีความอดทนเป็นยอดจึงต้องมีความอดกลั้นเป็นเยี่ยมด้วย...ถ้าเปรียบให้เห็นภาพชัดๆ ก็เหมือนกับบอกว่า แค่ขับรถเป็นยังไม่พอ ต้องรู้จักมารยาทในการใช้รถใช้ถนนด้วยนั่นเอง
...
และเพราะความอดทนที่ถึงพร้อมทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก...หากใครทำได้ จึงถือเป็นการบำเพ็ญบารมีอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ "ขันติบารมี" นั่นเองครับ
ผมทดลองปฏิบัติด้วยตัวเองแล้ว ก็ยอมรับโดยดุษฎีว่า "ยาก" จริงๆ...เพราะโทสะแห่งจิตนั้นมีความร้อนแรงที่เกิดขึ้นได้อย่างฉับพลัน หากว่าสติที่เป็นต้วควบคุมมีความเข้มแข็งไม่เพียงพอ
สัมมาอารมณ์จึงถือเป็นหนึ่งในการเจริญสติที่วัดระดับจิตของเราได้อย่างจริงแท้ครับ
คาดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก "ความอดทน" อย่างแน่นอนนะครับ...และก็แน่นอนเช่นกันที่นิยามของความอดทนของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป
บ้างก็ต้องอดทนต่อความอยุติธรรม, บ้างก็ต้องอดทนรอคอยโอกาสอะไรบางอย่าง และบ้างก็ต้องอดทนต่อความทุกข์ยากของชีวิต
ขึ้นชื่อว่า "ความอดทน" แล้ว คงเป็นเช่นที่หลวงพ่อจรัญฯ ได้โปรดเทศน์สั่งสอนไว้ว่า ความอดทน คือการ "อด" ในสิ่งที่ชอบ และการ "ทน" ในสิ่งที่ไม่ชอบ
หากแต่ช่วงเวลาแห่งการอดทนนั้น จะยาวนานดุจชั่วกัลป์ หรือจะเหมือนเวลาติดปีกบิน, จะผ่านไปอย่างเศร้าซึม หรือผ่านไปอย่างเริงรื่น...ทุกสิ่งล้วนถูกกำหนดโดยวิธีคิดของเรา
...
Joyce Meyer (นักเขียนและนักพูดชาวอเมริกัน) ว่าไว้ว่า...
"Patience is not an ability to wait, but the ability to keep a good attitude while waiting."
แปลว่า "ความอดทนนั้น มิใช่ความสามารถในการรอคอย แต่เป็นความสามารถในการรักษาทัศนคติเชิงบวกไว้ได้ตลอดชั่วระยะเวลาที่รอคอย ต่างหาก"
...
ผมออกจะชอบวิธีคิดของ Joyce Meyer มากอยู่...ค่าที่มันเตือนใจและให้สติเราได้ดีเหลือเกินว่า ความอดทน ไม่ได้หมายถึงเชิงปริมาณของเวลาเพียงเท่านั้น
หากแต่มันหมายถึง "คุณภาพ" ที่เราต้องรู้จักเติมลงไปในช่วงเวลาแห่งความอดทนนั้นด้วย
คนที่มีความอดทนเป็นยอดจึงต้องมีความอดกลั้นเป็นเยี่ยมด้วย...ถ้าเปรียบให้เห็นภาพชัดๆ ก็เหมือนกับบอกว่า แค่ขับรถเป็นยังไม่พอ ต้องรู้จักมารยาทในการใช้รถใช้ถนนด้วยนั่นเอง
...
และเพราะความอดทนที่ถึงพร้อมทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก...หากใครทำได้ จึงถือเป็นการบำเพ็ญบารมีอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ "ขันติบารมี" นั่นเองครับ
ผมทดลองปฏิบัติด้วยตัวเองแล้ว ก็ยอมรับโดยดุษฎีว่า "ยาก" จริงๆ...เพราะโทสะแห่งจิตนั้นมีความร้อนแรงที่เกิดขึ้นได้อย่างฉับพลัน หากว่าสติที่เป็นต้วควบคุมมีความเข้มแข็งไม่เพียงพอ
สัมมาอารมณ์จึงถือเป็นหนึ่งในการเจริญสติที่วัดระดับจิตของเราได้อย่างจริงแท้ครับ
Comments
Post a Comment