Post#3-152:
ค่ำนี้ผมอยู่ในงานเปิดตัวสินค้าใหม่ในกรุงย่างกุ้ง...จะว่าไป บรรยากาศในงานก็ไม่ต่างจากงานเปิดตัวสินค้าทั่วๆ ไปในกรุงเทพฯ สักเท่าไหร่
เรียกให้ถูก น่าจะบอกว่าฝีมือของ Event Organizer ที่นี่ ถ้าจะเป็นรองจากบ้านเรา ก็ต้องบอกว่า คงต้องถึงกับตัดสินด้วยภาพถ่าย
ด้วยความที่สินค้าใหม่ๆ จากหลากหลายประเทศทั่วโลก ต่างพากันมาที่เมียนมาร์กันแบบไม่ได้หยุดหย่อน ดังนั้น มาตรฐานของ Launching Event จึงได้รับการยกระดับขึ้นแบบก้าวกระโดด
...
แต่จะอย่างไรเสีย งานเปิดตัวเมื่อต้องการขายสินค้าหรือแนะนำบริการใหม่ๆ ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเมียนมาร์
เสมือนเป็นการบอกกล่าวอย่างเป็นทางการให้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องรับรู้ ว่าจะเริ่มล่ะนะ ลุยกันจริงๆ แล้วนะ...ไม่ใช่มางุบงิบส่งสินค้าเข้าไปขายกับเงียบๆ
นอกจากนั้น ก็เพื่อทำให้คู่ค้าทั้งหลายได้มีความมั่นใจ และได้รับรู้อย่างเป็นทางการว่า แผนงานการตลาดและช่องทางการจำหน่ายจะเป็นเช่นใด
...
อีกทั้ง ผมมองว่า งานเปิดตัวนั้น ก็ถือเป็นการเตรียมพร้อมครั้งใหญ่ ปลุกให้ทุกคนในองค์กรเกิดความฮึกเหิมและเตรียมพร้อมที่จะสู้
เมื่อมีกำลังใจดีในช่วงเริ่มต้น ก็จะเป็นแรงหนุนส่งให้คนทำงานมีพลังใจที่กล้าแกร่งและมีมานะที่จะทำงานให้สำเร็จผลต่อไป
แต่ทุกคนย่อมทราบดีว่า กำลังใจเพียงลำพัง ก็คงไม่อาจก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ใดๆ ได้...หากปราศจากการวางแผนที่ดีและการลงมือทำอย่างตั้งใจ
...
ลองนั่งนับเวลาย้อนกลับไปดูแล้ว...กว่าที่จะมีการเปิดตัวสินค้าในวันนี้ได้ ทั้งทีมงานไทยและทีมเมียนมาร์ ต้องทำงานร่วมกันอย่างหนักหนากว่า 8 เดือน
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เหลือความกังวลอะไรมากนัก อาจด้วยเพราะทุกสิ่งที่ควรทำ เราก็ได้ทำไปหมดแล้ว แปลว่าจะกังวลไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น...เหลือเพียงแต่เฝ้ารอดูผลลัพธ์แห่งความตั้งใจครั้งนี้ ก็เท่านั้น
ผมบอกกับทีมงานว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน...เราก็คงได้เปิด Champagne ฉลอง
และก็แน่นอนว่า มีน้องทีมงานคนหนึ่งถามผมว่า "What if we missed?" ("แล้วถ้าไม่เป็นไปตามแผนล่ะคะ?)
ผมตอบไปว่า ...จะยากอะไรล่ะครับ...ก็แค่หายใจลึกๆ แล้วก็ลงมือแก้ไขกันต่อไปเท่านั้นเอง
ชีวิตก็เป็นแบบนี้เอง...ว่ามั๊ยครับ?
ค่ำนี้ผมอยู่ในงานเปิดตัวสินค้าใหม่ในกรุงย่างกุ้ง...จะว่าไป บรรยากาศในงานก็ไม่ต่างจากงานเปิดตัวสินค้าทั่วๆ ไปในกรุงเทพฯ สักเท่าไหร่
เรียกให้ถูก น่าจะบอกว่าฝีมือของ Event Organizer ที่นี่ ถ้าจะเป็นรองจากบ้านเรา ก็ต้องบอกว่า คงต้องถึงกับตัดสินด้วยภาพถ่าย
ด้วยความที่สินค้าใหม่ๆ จากหลากหลายประเทศทั่วโลก ต่างพากันมาที่เมียนมาร์กันแบบไม่ได้หยุดหย่อน ดังนั้น มาตรฐานของ Launching Event จึงได้รับการยกระดับขึ้นแบบก้าวกระโดด
...
แต่จะอย่างไรเสีย งานเปิดตัวเมื่อต้องการขายสินค้าหรือแนะนำบริการใหม่ๆ ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเมียนมาร์
เสมือนเป็นการบอกกล่าวอย่างเป็นทางการให้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องรับรู้ ว่าจะเริ่มล่ะนะ ลุยกันจริงๆ แล้วนะ...ไม่ใช่มางุบงิบส่งสินค้าเข้าไปขายกับเงียบๆ
นอกจากนั้น ก็เพื่อทำให้คู่ค้าทั้งหลายได้มีความมั่นใจ และได้รับรู้อย่างเป็นทางการว่า แผนงานการตลาดและช่องทางการจำหน่ายจะเป็นเช่นใด
...
อีกทั้ง ผมมองว่า งานเปิดตัวนั้น ก็ถือเป็นการเตรียมพร้อมครั้งใหญ่ ปลุกให้ทุกคนในองค์กรเกิดความฮึกเหิมและเตรียมพร้อมที่จะสู้
เมื่อมีกำลังใจดีในช่วงเริ่มต้น ก็จะเป็นแรงหนุนส่งให้คนทำงานมีพลังใจที่กล้าแกร่งและมีมานะที่จะทำงานให้สำเร็จผลต่อไป
แต่ทุกคนย่อมทราบดีว่า กำลังใจเพียงลำพัง ก็คงไม่อาจก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ใดๆ ได้...หากปราศจากการวางแผนที่ดีและการลงมือทำอย่างตั้งใจ
...
ลองนั่งนับเวลาย้อนกลับไปดูแล้ว...กว่าที่จะมีการเปิดตัวสินค้าในวันนี้ได้ ทั้งทีมงานไทยและทีมเมียนมาร์ ต้องทำงานร่วมกันอย่างหนักหนากว่า 8 เดือน
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เหลือความกังวลอะไรมากนัก อาจด้วยเพราะทุกสิ่งที่ควรทำ เราก็ได้ทำไปหมดแล้ว แปลว่าจะกังวลไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น...เหลือเพียงแต่เฝ้ารอดูผลลัพธ์แห่งความตั้งใจครั้งนี้ ก็เท่านั้น
ผมบอกกับทีมงานว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน...เราก็คงได้เปิด Champagne ฉลอง
และก็แน่นอนว่า มีน้องทีมงานคนหนึ่งถามผมว่า "What if we missed?" ("แล้วถ้าไม่เป็นไปตามแผนล่ะคะ?)
ผมตอบไปว่า ...จะยากอะไรล่ะครับ...ก็แค่หายใจลึกๆ แล้วก็ลงมือแก้ไขกันต่อไปเท่านั้นเอง
ชีวิตก็เป็นแบบนี้เอง...ว่ามั๊ยครับ?
Comments
Post a Comment