Post#3-156:
บ่ายแก่ๆ ของวันนี้ ผมได้รับโอกาสให้เข้าพบนักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศ ท่านหนึ่ง...ทุกครั้งที่ผมได้พบท่าน ผมก็จะกลับออกมาพร้อมข้อคิดและแนวทางในการทำงานอยู่เสมอ
สำหรับวันนี้ก็เช่นกันครับ...ตอนหนึ่งของการสนทนา ท่านก็กรุณาให้ข้อคิดเกี่ยวกับภาพลวงตาและภาพจริง
ลองอ่านแล้วคิดตามดูนะครับ
...
โดยมากแล้ว เรามักจะโดนหลอกให้ติดกับดักบางอย่างโดยไม่รู้ตัว เช่นว่า มีบางครั้งเราก็ตอบตัวเองไม่ได้ ว่าเราซื้อสินค้าชิ้นนั้น ชิ้นนี้ มาทำไม?
ลองนึกย้อนดูครับ...ทำไมเราถึงซื้อสินค้าที่ลดราคาจากป้ายมากๆ, ทำไมเราซื้อสินค้าที่ขายราคาพิเศษเมื่อซื้อทีละเยอะๆ หรือทำไมเราซื้อสินค้าที่แถมนั่น นู่น นี่ มากมาย?
ส่วนกรณีเราเป็นช่องทางจำหน่ายก็เช่นกัน...บางครั้งเราอาจไปติดกับดักกับคู่ค้าที่เสนอส่วนแบ่งทางการขายสูงๆ ทำให้เราคาดหวังไปกับกำไรที่มากๆ ทั้งที่จริง เราจะได้กำไรก็ต่อเมื่อเราขายสินค้าได้เท่านั้น
แปลว่า แม้จะให้ส่วนแบ่งสูงๆ แต่คู่ค้านั้นตั้งราคาสินค้าสูงเกินพอดี, ไม่มีแผนการตลาดที่เหมาะสม ก็ไม่อาจทำให้เราได้กำไร เพราะขายสินค้าไม่ได้
...
จึงสรุปบทเรียนที่ท่านสอนได้ว่า...ไม่ว่าเราจะเป็นคนซื้อหรือคนขายก็ตาม เราจะต้องระลึกอยู่เสมอว่า เราต้องมองถึงภาพจริงให้มากกว่าภาพลวง
ถ้าเราเป็นคนซื้อ เช่น ซื้อเครื่องสำอางลดราคา ใช้ไม่ทัน จนหมดอายุ...ตกลงว่าซื้อถูกหรือซื้อแพง?
เราจะใช้ของถูกได้ ก็ต่อเมื่อเราใช้สินค้านั้นได้หมด โดยไม่ต้องทิ้ง...ใช่หรือไม่?
ถ้าเราเป็นคนขาย เช่น เราตั้งราคาขายขนมไว้ที่ 1,000 บาท โดยจะมีกำไร 50% กับถ้าเรายอมขายขนมที่ราคาเพียง 700 บาท โดยจะเหลือกำไรที่ 28%...ถามว่า แบบไหนจะสร้างผลกำไรให้เรามากกว่ากัน?
ตัวเลขของ % กำไรนั้น จะกลายมาเป็นกำไรที่เราจับต้องได้ก็ต่อเมื่อ เราสามารถขายสินค้าได้...แปลว่า แม้จะได้ % กำไรสูงๆ แต่ขายไม่ออกเพราะราคาแพง เราก็ไม่มีวันจะได้กำไรจริงๆ...ใช่หรือไม่?
ขายที่ราคา 1,000 บาท อาจจะขายได้ 3 ชิ้น เท่ากับกำไร 1,500 บาท แต่ขายที่ราคา 700
บาท เราอาจจะขายได้มากกว่า 10 ชิ้น นั่นหมายถึง เราอาจทำกำไรได้ถึง 2,000 บาท (ถ้าเราตั้งสมมติฐานว่า มันเป็นไปตามทฤษฏี Elasticity of Demand นะครับ)
...
ดังนั้น เวลาได้ข้อเสนออะไรที่ดีเกินจริง หากเราพิจารณาแล้วว่าอาจเป็นไปได้ยากในเชิงปฏิบัติ...เราก็อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ดอกไม้สีสดหรือแมลงสีสวย แฝงไปด้วยพิษซ่อนเร้นฉันใด ข้อเสนอที่งดงามเกินเชื่อ ก็อาจแฝงบางอย่างที่ซ่อนเร้นฉันนั้น
อืมมม...อันนี้ผมไม่แน่ใจว่า สาวงามผู้เลอโฉมกับหนุ่มหล่อผู้บาดใจ จะเข้าข่ายนี้ด้วยรึเปล่านะครับ ^^
บ่ายแก่ๆ ของวันนี้ ผมได้รับโอกาสให้เข้าพบนักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศ ท่านหนึ่ง...ทุกครั้งที่ผมได้พบท่าน ผมก็จะกลับออกมาพร้อมข้อคิดและแนวทางในการทำงานอยู่เสมอ
สำหรับวันนี้ก็เช่นกันครับ...ตอนหนึ่งของการสนทนา ท่านก็กรุณาให้ข้อคิดเกี่ยวกับภาพลวงตาและภาพจริง
ลองอ่านแล้วคิดตามดูนะครับ
...
โดยมากแล้ว เรามักจะโดนหลอกให้ติดกับดักบางอย่างโดยไม่รู้ตัว เช่นว่า มีบางครั้งเราก็ตอบตัวเองไม่ได้ ว่าเราซื้อสินค้าชิ้นนั้น ชิ้นนี้ มาทำไม?
ลองนึกย้อนดูครับ...ทำไมเราถึงซื้อสินค้าที่ลดราคาจากป้ายมากๆ, ทำไมเราซื้อสินค้าที่ขายราคาพิเศษเมื่อซื้อทีละเยอะๆ หรือทำไมเราซื้อสินค้าที่แถมนั่น นู่น นี่ มากมาย?
ส่วนกรณีเราเป็นช่องทางจำหน่ายก็เช่นกัน...บางครั้งเราอาจไปติดกับดักกับคู่ค้าที่เสนอส่วนแบ่งทางการขายสูงๆ ทำให้เราคาดหวังไปกับกำไรที่มากๆ ทั้งที่จริง เราจะได้กำไรก็ต่อเมื่อเราขายสินค้าได้เท่านั้น
แปลว่า แม้จะให้ส่วนแบ่งสูงๆ แต่คู่ค้านั้นตั้งราคาสินค้าสูงเกินพอดี, ไม่มีแผนการตลาดที่เหมาะสม ก็ไม่อาจทำให้เราได้กำไร เพราะขายสินค้าไม่ได้
...
จึงสรุปบทเรียนที่ท่านสอนได้ว่า...ไม่ว่าเราจะเป็นคนซื้อหรือคนขายก็ตาม เราจะต้องระลึกอยู่เสมอว่า เราต้องมองถึงภาพจริงให้มากกว่าภาพลวง
ถ้าเราเป็นคนซื้อ เช่น ซื้อเครื่องสำอางลดราคา ใช้ไม่ทัน จนหมดอายุ...ตกลงว่าซื้อถูกหรือซื้อแพง?
เราจะใช้ของถูกได้ ก็ต่อเมื่อเราใช้สินค้านั้นได้หมด โดยไม่ต้องทิ้ง...ใช่หรือไม่?
ถ้าเราเป็นคนขาย เช่น เราตั้งราคาขายขนมไว้ที่ 1,000 บาท โดยจะมีกำไร 50% กับถ้าเรายอมขายขนมที่ราคาเพียง 700 บาท โดยจะเหลือกำไรที่ 28%...ถามว่า แบบไหนจะสร้างผลกำไรให้เรามากกว่ากัน?
ตัวเลขของ % กำไรนั้น จะกลายมาเป็นกำไรที่เราจับต้องได้ก็ต่อเมื่อ เราสามารถขายสินค้าได้...แปลว่า แม้จะได้ % กำไรสูงๆ แต่ขายไม่ออกเพราะราคาแพง เราก็ไม่มีวันจะได้กำไรจริงๆ...ใช่หรือไม่?
ขายที่ราคา 1,000 บาท อาจจะขายได้ 3 ชิ้น เท่ากับกำไร 1,500 บาท แต่ขายที่ราคา 700
บาท เราอาจจะขายได้มากกว่า 10 ชิ้น นั่นหมายถึง เราอาจทำกำไรได้ถึง 2,000 บาท (ถ้าเราตั้งสมมติฐานว่า มันเป็นไปตามทฤษฏี Elasticity of Demand นะครับ)
...
ดังนั้น เวลาได้ข้อเสนออะไรที่ดีเกินจริง หากเราพิจารณาแล้วว่าอาจเป็นไปได้ยากในเชิงปฏิบัติ...เราก็อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ดอกไม้สีสดหรือแมลงสีสวย แฝงไปด้วยพิษซ่อนเร้นฉันใด ข้อเสนอที่งดงามเกินเชื่อ ก็อาจแฝงบางอย่างที่ซ่อนเร้นฉันนั้น
อืมมม...อันนี้ผมไม่แน่ใจว่า สาวงามผู้เลอโฉมกับหนุ่มหล่อผู้บาดใจ จะเข้าข่ายนี้ด้วยรึเปล่านะครับ ^^
Comments
Post a Comment