Post#3-365:
เช้าวันนี้ ผมมีโอกาสได้ไปมอบรางวัลเล็กๆ ให้กับทีมขายขององค์กรขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง (ซึ่งเป็นลูกค้าของผม) เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดความคึกคักในการขาย
ยังจำบริษัทของพี่ B (ที่ผมเล่าถึงใน Post#3-329) ได้มั๊ยครับ?...นั่นล่ะครับ องค์กรขนาดยักษ์ที่ผมกำลังหมายถึง
กว่าจะมาถึงวันนี้...ผมบอกได้เลยครับ ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านปัญหาและอุปสรรคมามากมาย
ต้องวางแผน, ลงมือ, แก้ไข และปรับปรุง มานับครั้งไม่ถ้วน...แก้ปัญหาจบไปหนึ่งเรื่อง ก็จะมีเรื่องใหม่ๆ มาท้าทายเสมอ
...
ผ่านมาหลายเดือน, แม้ปัญหาที่เกิดขึ้นจะยังคงมิซ่างซา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาคู่กันก็คือมิตรภาพและความผูกพัน
แม้จะมีทั้งเรื่องที่ทำให้ขุ่นข้องหมองใจและเข้าใจกันผิด...แต่ต่างฝ่ายต่างก็ประคับประคองเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายร่วมกัน
ผมรู้สึกได้ถึงการต้อนรับให้ผมและทีมงาน...ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานของพี่ B อย่างไม่มีกำแพง
...
นับเกือบจะ 20 ปีที่ผมทำงานมา...ต้องยอมรับว่า ยังไม่เคยเจอ "ลูกค้า" ที่มีความจริงใจและให้โอกาส กับคู่ค้า ได้มากเช่นนี้ มาก่อน
ผิดพลาดก็ไม่ได้ซ้ำเติม, แต่ชวนหารือถึงแนวทางแก้ปัญหา มากกว่าจะมัวมาตั้งแง่ว่าใครสร้างปัญหา
จึงนับเป็นความประทับใจที่หาได้ไม่ง่ายนัก...ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ต่างต้องเอาตัวเองให้รอดเป็นสำคัญ
...
การที่ผมมีโอกาสได้ทำงานกับทีมงานที่ดีเยี่ยมของลูกค้าได้แบบนี้...แน่นอนว่า ย่อมเป็นผลมาจาก "เจตจำนงแห่งองค์กร" ที่แข็งแกร่ง
เริ่มตั้งแต่ท่านผู้เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท, สืบต่อมายังพี่ B และถูกถ่ายทอดต่อไปถึงทีมงาน...จนทุกคนมีเจตจำนงของการ "คิดดี" อยู่ในตัว
อาจไม่แปลกที่เจตจำนงแห่งองค์กรจะถูกถ่ายทอดจากท่านผู้ก่อตั้งไปสู่พี่ B ผ่านทางสายเลือด
แต่การส่งผ่านเจตจำนงที่ว่าไปสู่ทีมงานที่มิใช่สายเลือด...ตั้งแต่ระดับบริหารไปจนถึงระดับปฏิบัติการนั้น...
ต้องถือเป็นหนึ่งในความงดงามอันอัศจรรย์ที่มิอาจเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน
และนั่นย่อมเป็นสิ่งยืนยันถึงเจตจำนงอันแรงกล้าของท่านผู้ก่อตั้ง และพี่ B ก็สานต่อความเชื่อมั่นต่อเจตจำนงนั้น ด้วยการทุ่มเทบ่มเพาะให้กับทีมงาน
...สำคัญอย่างยิ่งก็คือ เจตจำนงแห่งองค์กรนี้ จะแสดงผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมออกมามิได้ หากไร้ซึ่งความศรัทธาที่ทีมงานทุกคนมีต่อท่านผู้ก่อตั้งและพี่ B
...
โดยความสัตย์จริง...ผมมิได้มีเจตนาจะสอพลอหรือยกยอพี่ B และทีมงาน เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ
หากแต่ผมเชื่อว่า คนทำดีสมควรได้รับการยกย่องและเชิดชู...และสิ่งที่ผมสาธยายมานั้น จริงหรือเท็จประการใด, พี่ B และทีมงาน ล้วนทราบดีอยู่ในหัวใจ
...พี่ B และทีมงาน ได้สอนผมแล้วอย่างชัดเจนเหลือเกินครับ...ว่าคุณธรรมและน้ำมิตร ก็มีคุณค่ามิได้ย่อหย่อนไปกว่า ผลสำเร็จทางธุรกิจ...
#ขอคารวะด้วยร้อยกรองครับ
...หนทางพิสูจน์ม้า
กาลเวลาพิสูจน์คน
ไม้หยั่งลึกสายชล
วิกฤตไซร้ใช้หยั่งใจ
ท่ามกลางการขันแข่ง
ต่างแสวงแต่กำไร
ยังมีที่ยืนให้
ดอกน้ำใจได้เบ่งบาน...
เช้าวันนี้ ผมมีโอกาสได้ไปมอบรางวัลเล็กๆ ให้กับทีมขายขององค์กรขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง (ซึ่งเป็นลูกค้าของผม) เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดความคึกคักในการขาย
ยังจำบริษัทของพี่ B (ที่ผมเล่าถึงใน Post#3-329) ได้มั๊ยครับ?...นั่นล่ะครับ องค์กรขนาดยักษ์ที่ผมกำลังหมายถึง
กว่าจะมาถึงวันนี้...ผมบอกได้เลยครับ ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านปัญหาและอุปสรรคมามากมาย
ต้องวางแผน, ลงมือ, แก้ไข และปรับปรุง มานับครั้งไม่ถ้วน...แก้ปัญหาจบไปหนึ่งเรื่อง ก็จะมีเรื่องใหม่ๆ มาท้าทายเสมอ
...
ผ่านมาหลายเดือน, แม้ปัญหาที่เกิดขึ้นจะยังคงมิซ่างซา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาคู่กันก็คือมิตรภาพและความผูกพัน
แม้จะมีทั้งเรื่องที่ทำให้ขุ่นข้องหมองใจและเข้าใจกันผิด...แต่ต่างฝ่ายต่างก็ประคับประคองเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายร่วมกัน
ผมรู้สึกได้ถึงการต้อนรับให้ผมและทีมงาน...ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานของพี่ B อย่างไม่มีกำแพง
...
นับเกือบจะ 20 ปีที่ผมทำงานมา...ต้องยอมรับว่า ยังไม่เคยเจอ "ลูกค้า" ที่มีความจริงใจและให้โอกาส กับคู่ค้า ได้มากเช่นนี้ มาก่อน
ผิดพลาดก็ไม่ได้ซ้ำเติม, แต่ชวนหารือถึงแนวทางแก้ปัญหา มากกว่าจะมัวมาตั้งแง่ว่าใครสร้างปัญหา
จึงนับเป็นความประทับใจที่หาได้ไม่ง่ายนัก...ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ต่างต้องเอาตัวเองให้รอดเป็นสำคัญ
...
การที่ผมมีโอกาสได้ทำงานกับทีมงานที่ดีเยี่ยมของลูกค้าได้แบบนี้...แน่นอนว่า ย่อมเป็นผลมาจาก "เจตจำนงแห่งองค์กร" ที่แข็งแกร่ง
เริ่มตั้งแต่ท่านผู้เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท, สืบต่อมายังพี่ B และถูกถ่ายทอดต่อไปถึงทีมงาน...จนทุกคนมีเจตจำนงของการ "คิดดี" อยู่ในตัว
อาจไม่แปลกที่เจตจำนงแห่งองค์กรจะถูกถ่ายทอดจากท่านผู้ก่อตั้งไปสู่พี่ B ผ่านทางสายเลือด
แต่การส่งผ่านเจตจำนงที่ว่าไปสู่ทีมงานที่มิใช่สายเลือด...ตั้งแต่ระดับบริหารไปจนถึงระดับปฏิบัติการนั้น...
ต้องถือเป็นหนึ่งในความงดงามอันอัศจรรย์ที่มิอาจเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน
และนั่นย่อมเป็นสิ่งยืนยันถึงเจตจำนงอันแรงกล้าของท่านผู้ก่อตั้ง และพี่ B ก็สานต่อความเชื่อมั่นต่อเจตจำนงนั้น ด้วยการทุ่มเทบ่มเพาะให้กับทีมงาน
...สำคัญอย่างยิ่งก็คือ เจตจำนงแห่งองค์กรนี้ จะแสดงผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมออกมามิได้ หากไร้ซึ่งความศรัทธาที่ทีมงานทุกคนมีต่อท่านผู้ก่อตั้งและพี่ B
...
โดยความสัตย์จริง...ผมมิได้มีเจตนาจะสอพลอหรือยกยอพี่ B และทีมงาน เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ
หากแต่ผมเชื่อว่า คนทำดีสมควรได้รับการยกย่องและเชิดชู...และสิ่งที่ผมสาธยายมานั้น จริงหรือเท็จประการใด, พี่ B และทีมงาน ล้วนทราบดีอยู่ในหัวใจ
...พี่ B และทีมงาน ได้สอนผมแล้วอย่างชัดเจนเหลือเกินครับ...ว่าคุณธรรมและน้ำมิตร ก็มีคุณค่ามิได้ย่อหย่อนไปกว่า ผลสำเร็จทางธุรกิจ...
#ขอคารวะด้วยร้อยกรองครับ
...หนทางพิสูจน์ม้า
กาลเวลาพิสูจน์คน
ไม้หยั่งลึกสายชล
วิกฤตไซร้ใช้หยั่งใจ
ท่ามกลางการขันแข่ง
ต่างแสวงแต่กำไร
ยังมีที่ยืนให้
ดอกน้ำใจได้เบ่งบาน...
Comments
Post a Comment