Skip to main content

Post#4-007: ย่ำเท้าอยู่กับที่

Post#4-007:
วันนี้ช่วงบ่าย ผมมีนัดไปประชุมกับบริษัทที่ผมเคยทำงานอยู่ด้วยเมื่อสิบกว่าปีก่อน

และก็เหมือนเช่นหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่ผมจะได้เจอกับเพื่อนร่วมงานเก่าๆ มากหน้าหลายตา

บางคน จากเคยตำแหน่งเล็กๆ มาวันนี้ก็เติบใหญ่ขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง...ซึ่งผมก็ชื่นชมและยินดีไปกับพวกเค้าด้วย

แต่กับบางคน เมื่อสิบกว่าปีก่อนตำแหน่งอะไร ปัจจุบันนี้ก็ยังทำตำแหน่งนั้นอยู่เหมือนเดิม...ซึ่งผมคิดว่า มีบางอย่างไม่ปกติ

...

นึกภาพออกมั๊ยครับ...อีก 5-10 ปีข้างหน้า เราจะทำอะไรหาเลี้ยงชีพ?

ยังอยู่ที่เดิมและตำแหน่งเดิม หรือยังอยู่ที่เดิมแต่ก้าวหน้าขึ้น?

ยังทำงานตำแหน่งเดิมแต่เปลี่ยนบริษัท หรือก้าวไปเป็นเจ้าของกิจการ?

หรือยังอยู่ตำแหน่งเดิมบริษัทเดิม ยังไงก็ยังงั้น...ขี้คร้านจะเปลี่ยนแปลงและไม่คิดจะเปลี่ยนไป?

...

ผมยังคงต้องย้ำว่า หากคุณทำงานที่เดิมในตำแหน่งเดิมเป็นเวลานับสิบๆ ปี ได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลย...นั่นแปลว่า มีบางอย่างผิดเพี้ยนไป

ไม่บริษัทนั้นผิดปกติ...ก็ถึงเวลาที่ตัวคุณเองจะต้องทบทวนตัวเองเป็นอย่างมาก

ลองเปรียบเทียบกับการเดินทางไกลดูก็ได้ครับ...ทุกคนออกเดินทางไปข้างหน้ากันหมด แต่มีแค่คุณคนเดียวที่ย่ำเท้าอยู่กับที่...แปลกมั๊ยล่ะครับ?

...

จริงอยู่ที่มันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่จะเลือกใช้ชีวิต...

บางคนอาจจะชอบงานที่ทำอยู่จนไม่อยากเปลี่ยนไปไหน...ในขณะที่บางคนอาจจะแค่กำลังหลอกตัวเองว่า ชอบงานที่ทำอยู่

แต่จริงๆ แล้ว...มันใช่เหรอ?

...

ผมเคยเจอคนที่เริ่มต้นด้วยการเป็นแม่บ้านในสำนักงาน จนผ่านมาสิบกว่าปีก็ยังคงเป็นแม่บ้านในสำนักงานเหมือนเดิม

แต่ผมก็เคยเจอคนที่เริ่มต้นด้วยการเป็นแม่บ้านในสำนักงาน แต่ผ่านมาสิบปี เธอกลายเป็นผู้จัดการฝ่ายขายในบริษัทชั้นนำ

ผมเคยเจอคนที่เป็น Messenger เมื่อสิบปีก่อน...มาปัจจุบันเค้าก็ยังทำงานเดิม

แต่ผมก็เคยเจอคนที่สิบปีก่อนเป็น Messenger แต่ในปัจจุบัน เค้ากลายเป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ไปแล้ว

ผมไม่ได้จะดูถูกว่า แม่บ้านหรือ Messenger เป็นตำแหน่งที่ต่ำต้อย...แต่ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายกับผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ก็น่าจะเป็นตำแหน่งที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า...หรือมิใช่?

...

ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าคุณจะอยู่บริษัทเดิมเป็นสิบๆ ปี แต่มันจะเป็นเรื่องบ้า ถ้าคุณทำงานในตำแหน่งเดิมๆ โดยไม่เปลี่ยนแปลง เป็นเวลากว่าสิบๆ ปี

คุณอาจจะหลอกตัวเองได้ว่า คุณเก่งไม่พอ, คุณมีข้อจำกัดนั่น นู่น นี่...คุณจึงเลือกจะทำอะไรเดิมๆ เป็นสิบๆ ปี โดยไม่รู้สึกเป็นทุกข์อะไร...ซึ่งนั่นก็ต้องแล้วแต่คุณ

ถ้าคุณมั่นใจว่าการย่ำอยู่กับที่โดยไม่ไปไหนเป็นหนทางที่ถูกต้อง...ผมก็ขอให้คุณสนุกอยู่กับการย่ำเท้าต่อไป

แต่คุณต้องรู้ว่า ระยะเวลาที่คุณย่ำเท้าอยู่กับที่ประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาที่คุณสามารถใช้เดินทางไปได้ไกลถึง 8 กม!

...มาถึงวันนึง คุณจะถามตัวเองและนึกเสียใจมั๊ย...ว่าสิบกว่าปีที่ผ่านไป...ฉันมัวทำอะไรอยู่?...

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...