Post#2-11:
หลายต่อหลายครั้งที่ผมต้องอธิบายให้ทีมงานฟังว่า ต้นทุนทางบัญชี กับต้นทุนการทำงาน น่ะไม่เหมือนกัน
ต้นทุนทางบัญชีหมายถึงเงินที่ต้องจ่ายออกไป ในขณะที่ต้นทุนการทำงาน นอกจากจะหมายถึงต้นทุนทางบัญชีแล้ว อาจหมายรวมถึงอย่างอื่นที่มากกว่าเงิน เช่นเวลา, แรงกาย และแรงใจ เป็นต้น
ว่ากันตามภาษาคณิตศาสตร์ ก็คือ ต้นทุนทางบัญชี เป็น subset ของต้นทุนการทำงาน ^^
ต้นทุนการทำงานที่ไม่ใช่ตัวเงินมักถูกมองข้ามอยู่เสมอ ค่าที่ไม่ได้มีความสูญเสียที่จับต้องได้ในรูปของเงิน แต่จริงๆ แล้วต้นทุนการทำงานเป็นสิ่งอันไม่อาจมองข้ามได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ละเลย ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียแบบต่อเนื่องและเจ็บปวด
ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจร้านค้า ที่มีอัตราการลาออกของพนักงานอยู่บ่อยๆ ถ้ามองในรูปแบบของต้นทุนทางบัญชี ก็แค่พนักงานลาออก หามาเติมก็สิ้นเรื่อง แต่ในความเป็นจริง พนักงานที่ลาออกมีต้นทุนการทำงานแฝงอยู่ในรูปของการฝึกอบรม, ความชำนาญในงาน และขวัญกำลังใจของคนที่ร่วมทำงาน
เมื่อรับพนักงานเข้ามาทดแทน ดูเผินๆ จะคิดว่าเท่าทุน เพราะลาออกไป 1 คน ก็รับเข้ามาแทน 1 คน แม้ต้นทุนทางบัญชี (เงินเดือน) จะเท่ากัน แต่ต้นทุนการทำงานต่างกันเยอะ (คนที่ลาออกไปมีต้นทุนการทำงานแฝงอยู่ และต้องมีต้นทุนการทำงานเพิ่มในการฝึกอบรมและพัฒนาคนที่เข้ามาแทน) ไหนจะขวัญและกำลังใจของคนทำงานอีก ที่ต้องเห็นคนทยอยลาออกอยู่บ่อยๆ เค้าก็จะเริ่มคิดว่า "แล้วกรูจะอยู่ทำไมที่นี่ มีแต่คนลาออก"
นอกจากนั้น ยังมีต้นทุนเวลาที่สูญเสียไปอีก เช่นพนักงานใหม่ที่เข้ามา ต้องแบ่งเวลามารับการฝึกอบรม แทนที่จะใช้เวลาไปกับการไปยืนขายของ และต้องมีพี่เลี้ยงระหว่างทำงาน แปลว่าแทนที่พี่เลี้ยงจะได้ขายของ ก็ต้องมาคอยประกบน้องใหม่อีก เป็นต้น
ต้นทุนการทำงานอาจจะเกิดจากกระบวนการทำงานที่เยิ่นเย้อ หรือทับซ้อนกันก็ได้เช่นกัน เช่น งานง่ายๆ แต่มีการวาง workflow ที่ผิดพลาด ทำให้กว่าจะทำงานจบกระบวนการ ก็ใช้เวลามากเกินความจำเป็น (อารมณ์ประมาณละครที่เดินเรื่องยืดยาดล่ะครับ) หรืองานเดียวกัน แต่มีมากกว่า 1 หน่วยงานทำซ้ำกัน อาจจะเกิดจากความไม่เชื่อใจระหว่างหน่วยงาน หรืออาจจะไม่ได้วางแผนงานแบบ cross-functional ก็เป็นได้
ตัวอย่างที่ผมเล่ามานี่ล่ะครับ เป็นตัวอย่างของต้นทุนการทำงานที่เรามองไม่เห็น แต่ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวในงานเป็นอย่างมาก
ที่ต้องทำใจก็คือ ตัวอย่างที่ผมเล่ามา เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกประเภทธุรกิจและทุกขนาดขององค์กรซะด้วยสิครับ ซึ่งถ้าจะลดทอนความเสียหายลงได้บ้าง ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้นำองค์กรจะให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาหรือไม่ อย่างไร
ในองค์กรของผมก็มี ในองค์กรของทุกท่านก็มี มากบ้างน้อยบ้าง แตกต่างกันไปแล้วแต่กรณี...และแน่นอนที่สุดว่า ไม่มีทางแก้ให้หมดไปแบบถาวรได้ เผลอเมื่อไหร่ปัญหานี้ก็จะกลับมาอีก เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับการทำงาน เหมือนคนกับเงา ประมาณนั้นเลย
ต่างคนต่างก็เอาใจช่วยกันในการแก้ปัญหานะครับ ^^
Comments
Post a Comment