Post#2-8:
ช่วงนี้ผมโชคดี (ชิ) ที่ต้องมาโรงพยาบาลบ่อยๆ ^^
ระหว่างรอหมอก็นั่งดูผู้คนไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็ฆ่าเวลาด้วยการตั้งข้อสังเกตไปตามประสาคนอยู่ว่างๆ ไม่เป็น
ผู้คนที่มาโรงพยาบาล ไม่เป็นคนเยี่ยมไข้ก็เป็นคนป่วย ซึ่งมีทั้งป่วยมากป่วยน้อยคละเคล้ากันไป
ส่วนใหญ่แล้ว โดยธรรมชาติของคนป่วยนั้น มีความเศร้าหมองจากความเจ็บป่วยเกาะกุมใจอยู่ ก็แน่ละครับ กายไม่สบาย จะปั้นหน้ายิ้มระรื่นก็ใช่ที่
เมื่อเข้าใจธรรมชาติของคนป่วยแล้ว คนที่ไปเยี่ยมไข้จึงมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการครับ
หนึ่ง...อย่าถือสา ถ้าคนป่วยจะ "ขี้วีน" ไปบ้าง ก็เป็นเพราะใจของพวกเค้าตกอยู่ในภวังค์ทุกข์ คิดอะไรก็เฉไปทางร้าย และความคิดที่ไม่ปกตินี้ จึงสะท้อนออกมาผ่านคำพูดและการกระทำ
ถ้าเค้าวีน ก็อดใจไว้ อย่าไปตอบโต้เลยครับ เห็นใจคนป่วยกันดีกว่า อาการขี้วีนน่ะหลังป่วยก็หาย แต่อาการหมางใจจากการไปถือสาเค้าน่ะ กินเวลานานกว่าจะเยียวยานะครับ
สอง...อย่าปล่อยให้ตัวเองเศร้าหมองตามคนป่วย เราไปเยี่ยมไข้เพื่อเพิ่มพลังบวกให้เค้า ไม่ใช่ไปรับพลังลบกลับมา
โบราณท่านจึงเตือนไว้หนักหนา ว่าคนป่วยด้วยกันเอง, เด็กๆ หรือคนที่ใจไม่เข้มแข็ง ไม่ควรไปเยี่ยมคนป่วยหนัก เพราะเราน่ะเป็นกระจกสะท้อนความเจ็บป่วยของเค้า ผ่านสีหน้าและแววตาของเรา
แทนที่ไปเยี่ยมคนป่วยแล้วเค้าดีขึ้น ก็กลายเป็นไปทำให้เค้าอาการแย่ลง และตัวเราเองก็จิตตกด้วย
...
ไม่ว่ายังไง เราก็หนีอาการเจ็บป่วยไปไม่พ้น ถ้าวันหนึ่งเราต้องกลายมาเป็นคนป่วยซะเอง ก็พยายามคุมจิตตัวเองให้ดีนะครับ คนเยี่ยมไข้จะได้ไม่ลำบาก ^^
ดังคำพระท่านว่าไว้ "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" จริงๆ ครับ
Comments
Post a Comment