Post#2-2:
ด้วยลัทธิบริโภคนิยมที่นับวันจะมีแต่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมในการจับจ่ายของผู้คนส่วนใหญ่ ใกล้เคียงกับคำว่า “ล้มเหลว" มากขึ้นเรื่อยๆ
จั่วหัวเหมือนนักวิชาการแบบนี้ เป็นเพราะช่วงเช้าผมนั่งอ่านโพสต์ เพื่อ update นั่น นู่น นี่ เป็นปกติ และให้บังเอิญไปเจอประโยคโดนใจเกี่ยวกับลัทธิบริโภคนิยมที่ว่า เค้าว่าไว้อย่างนี้ครับ...
"Sometimes, it makes sense to pay $2 for a $1 item that we need, but it seems like we pay $1 for a $2 item that we don’t need, but is on SALE."
แปลว่า..."บางครั้ง มันก็สมควรที่จะจ่ายเงิน 2 เหรียญ เพื่อของราคา 1 เหรียญ ที่เราต้องการ แต่มันดูเหมือนว่า เราจะจ่ายเงิน 1 เหรียญ ให้กับของราคา 2 เหรียญ ที่เราไม่ต้องการ แต่ซื้อเพราะมันลดราคา ซะล่ะมากกว่า”
จริงๆ ประโยคนี้ เค้าตั้งใจจะกระแนะกระแหนผู้หญิง แต่ผมคิดว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงหรอกครับที่เป็น เพราะพออ่านประโยคนี้จบ ผมรู้สึกเหมือนขับๆ รถอยู่ แล้วมีอันให้ต้องเหยียบเบรคหัวทิ่ม แล้วก็นั่งทบทวนว่า ผมเป็นหนึ่งในขบวนการนี้ด้วยรึเปล่า?
แม้ใจจะต่อต้านว่าไม่นะ เราไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่ของที่ซื้อมาโดยที่ไม่รู้ว่าซื้อมาทำไมนั้น มันกองเป็นหลักฐานทนโท่อยู่เต็มบ้าน
สรุปแล้ว ทุกวันนี้ คนเราซื้อของ เพราะว่า ของนั้นเป็นของจำเป็นที่เราต้องใช้ หรือจริงๆ แล้ว เราซื้อเพราะตกอยู่ภายใต้ลัทธิบริโภคนิยมไปโดยไม่รู้ตัวกันแน่?
ถ้าจำไม่ผิด Wil Rogers (http://en.wikipedia.org/wiki/Will_Rogers) นักแสดงชาวอเมริกัน ก็เคยพูดประโยคคล้ายๆ กันนี้ ว่า "Too many people spend money they earned...to buy things they don’t want...to impress people that they don’t like.” (ผู้คนไม่น้อยเลย ที่ใช้เงินที่หามาได้ไปกับสิ่งที่พวกเค้าไม่ได้ต้องการ เพียงเพื่อจะทำให้คนที่เค้าไม่ได้ชอบขี้หน้าประทับใจ)
อ่านแล้วสะอึกอีกรอบครับ...
Comments
Post a Comment