Post#2-13:
เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้อ่านผลสำรวจดัชนีความสุขของคนไทยทั้งประเทศ และพบว่าคนกรุงเทพฯ มีดัชนีความสุขต่ำที่สุด และชาวแม่ฮ่องสอนมีดัชนีความสุขสูงที่สุด
ออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต แต่โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า ดัชนีความสุขน่าจะผกผันตามวิธีใช้ชีวิตและวิธีคิดที่มีต่อชีวิตของคนในสังคมใดสังคมหนึ่ง
ชีวิตในสังคมที่รีบเร่ง น่าจะทำให้ความสุขในชีวิตลดลง แต่ผมไม่ได้หมายความว่า เราควรหันมาใช้ชีวิตเฉื่อยชานะครับ ผมเพียงแต่คิดว่า เราไม่ควรใช้ชีวิตรีบเร่งเกินพอดีต่างหาก
อีกปัจจัยหนึ่งที่ผมเชื่อว่ามีผลกับดัชนีความสุข น่าจะเป็นเรื่องของวิธีคิด
ถ้าถามว่า "จุดหมายของชีวิตอยู่ที่ไหน?" ผู้คนส่วนใหญ่จะตอบว่า "อยากมีชีวิตที่มีความสุข" ผมเองก็ตอบแบบนี้
จนกระทั่งผมมาเจอกับวาทะนี้ ผมจึงพบว่า ผมเข้าใจผิดมาตลอดเกี่ยวกับ "ความสุข"
เค้าว่าไว้อย่างนี้ครับ...
"Happiness is not a destination, it is a way of life."
แปลว่า "ความสุขไม่ใช่จุดหมาย มันเป็นวิถีทางของชีวิตต่างหาก"
สารภาพว่าอ่านจบประโยคปุ๊บ ผมรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าใส่หัว ชาไปจนถึงปลายเท้า...
มิน่าล่ะ...เมื่อเราตั้งเป้าไล่ล่าไขว่คว้าหาความสุข เราจึงไม่อาจพบกับความสุข เพราะความสุขมิใช่จุดหมาย...ความสุขอยู่ตามรายทางของการใช้ชีวิตต่างหาก
เมื่อเลือกทางเดินชีวิตที่พอเหมาะพอควรกับตัวเรา ไม่เร่งรีบจนเกินงาม ไม่แบกหามแต่ความทุกข์...เท่านั้นเอง ความสุขก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้า
ยิ่งคิดผมยิ่งเห็นจริงว่า ทุกวันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ทำตรงกันข้าม ตั้งเป้าตามหาความสุข แต่แบกความทุกข์ไว้กับตัวตลอดเวลา ใช้ชีวิตเร่งรีบเพื่อจะไปให้ถึงจุดหมาย ทำให้มองข้ามรายทางที่มีคุณค่า
ยิ่งเราตามหาความสุข เรายิ่งห่างไกลจากความสุขไปทุกที...ระหว่างทางไปสู่จุดหมาย จึงควรชะลอตัวเราให้ชื่นชมรายทางบ้าง
...แล้วจะพบว่า "ความสุข" ขึ้นอยู่กับวิถีการใช้ชีวิต ไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต จริงอย่างที่เค้าว่าไว้จริงๆ ครับ ^^
Comments
Post a Comment