Post#365:
หนึ่งในรายการที่ผมชื่นชอบเพิ่งจะจบ season ไป นั่นคือรายการ Thailand Got Talent
ผมชอบดูรอบ audition เพราะผมสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่น, ความหวัง และความกล้า จากผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้อย่างชัดเจน เป็นการแสดงตัวตนแท้ๆ โดยไม่มีการเสริมแต่ง ต่างจากรอบลึกๆ ที่มีความเป็นการแสดงเข้ามาประกอบค่อนข้างเยอะ ทำให้ตัวตนของผู้แข่งฯ โดนกลืนไปบ้าง
อีกรายการที่ชอบไม่แพ้กัน ก็คือ The Voice ที่กำลังจะเริ่มต้น
แน่นอนที่ผมก็ชอบดูรอบ audition มากกว่าเช่นกัน เพราะการที่จะทำให้กรรมการกดหันมาได้ ต้องเกิดจากความสามารถล้วนๆ โดยที่ไม่มีเรื่องรูปร่างหน้าตาเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นรอบที่ผู้แข่งฯ แสดงความเป็นตัวตนแท้ๆ ได้ชัดเจนที่สุด แต่เมื่อเข้ารอบลึกๆ ผู้แข่งฯ ก็โดนเงื่อนไขของรายการบังคับ ทำให้ idendity โดนบั่นทอน พลังที่เคยเปล่งประกายก็เลยหมองๆ ลงไปเช่นกัน
ทั้ง 2 รายการ ทำให้ผมนึกถึงสโลแกนเก่าของ Thailand Got Talent นั่นคือ "แค่กล้า...ก็ชนะแล้ว"
คงไม่ปฏิเสธว่า ส่วนใหญ่อยากมาประกวด เพราะเงินรางวัลมันก้อนใหญ่ ดึงดูดให้มาเข้าร่วม และผู้แข่งฯ ก็มีปูมหลัง มีแรงผลักดันให้มาต่อสู้ต่างๆ กันไป แต่ผมพบว่า มีไม่น้อยที่ผู้แข่งฯ ไม่ได้หวังไกลไปถึงเงินรางวัล หากแต่ต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่างในตัว
ผมพบว่าผู้ชนะจากทั้ง 2 รายการนี้ มักเป็นคนที่เลือกที่จะไม่แข่งกับคนอื่น หากแต่เลือกแข่งกับตัวเอง เลือกที่จะปลดปล่อยตัวตนของเค้าผ่านการแสดง เลือกที่จะตั้งเป้าหมายไปที่ ความยอมรับของคนดูและกรรมการ ไม่ใช่เงินรางวัล เมื่อเค้าตั้งเป้าถูกต้อง พลังจึงบังเกิด ความเป็นธรรมชาติและเนื้อแม้ของเค้าจึงเปล่งประกาย ไม่ว่าเค้าจะชนะการแข่งขันหรือไม่ เค้าก็ได้ชนะใจคนดูไปเรียบร้อยแล้ว
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันส่วนใหญ่ ขายความสามารถและความมุ่งมั่น ไม่ได้ขายรูปร่างและหน้าตา ดังนั้นหากเค้ายังชูจุดขายเดิมโดยไม่แปรเปลี่ยน เค้าจึงได้ปรากฏกายในงานต่างๆ ด้วยจุดขายนั้น โดยได้รับค่าตอบแทนทั้งในรูปตัวเงินและความชื่นชม บางครั้งเค้าก็ดังกว่าผู้ชนะบนเวทีซะอีก
ผลลัพธ์เหล่านี้ เริ่มต้นจาก "ความกล้า" เพียงคำเดียว
ถ้าเรากล้า เชื่อมั่น และพร้อมทุ่มเทในสิ่งที่ทำ ผมก็เชื่อว่า เราคงจะประสบความสำเร็จไม่ต่างจากบุคคลตัวอย่างที่ผมเล่าข้างต้น
แค่กล้า...ก็ชนะแล้ว จริงๆ ครับ ^^
* หมายเหตุ ไม่ได้รับค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะครับ อิอิ
หนึ่งในรายการที่ผมชื่นชอบเพิ่งจะจบ season ไป นั่นคือรายการ Thailand Got Talent
ผมชอบดูรอบ audition เพราะผมสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่น, ความหวัง และความกล้า จากผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้อย่างชัดเจน เป็นการแสดงตัวตนแท้ๆ โดยไม่มีการเสริมแต่ง ต่างจากรอบลึกๆ ที่มีความเป็นการแสดงเข้ามาประกอบค่อนข้างเยอะ ทำให้ตัวตนของผู้แข่งฯ โดนกลืนไปบ้าง
อีกรายการที่ชอบไม่แพ้กัน ก็คือ The Voice ที่กำลังจะเริ่มต้น
แน่นอนที่ผมก็ชอบดูรอบ audition มากกว่าเช่นกัน เพราะการที่จะทำให้กรรมการกดหันมาได้ ต้องเกิดจากความสามารถล้วนๆ โดยที่ไม่มีเรื่องรูปร่างหน้าตาเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นรอบที่ผู้แข่งฯ แสดงความเป็นตัวตนแท้ๆ ได้ชัดเจนที่สุด แต่เมื่อเข้ารอบลึกๆ ผู้แข่งฯ ก็โดนเงื่อนไขของรายการบังคับ ทำให้ idendity โดนบั่นทอน พลังที่เคยเปล่งประกายก็เลยหมองๆ ลงไปเช่นกัน
ทั้ง 2 รายการ ทำให้ผมนึกถึงสโลแกนเก่าของ Thailand Got Talent นั่นคือ "แค่กล้า...ก็ชนะแล้ว"
คงไม่ปฏิเสธว่า ส่วนใหญ่อยากมาประกวด เพราะเงินรางวัลมันก้อนใหญ่ ดึงดูดให้มาเข้าร่วม และผู้แข่งฯ ก็มีปูมหลัง มีแรงผลักดันให้มาต่อสู้ต่างๆ กันไป แต่ผมพบว่า มีไม่น้อยที่ผู้แข่งฯ ไม่ได้หวังไกลไปถึงเงินรางวัล หากแต่ต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่างในตัว
ผมพบว่าผู้ชนะจากทั้ง 2 รายการนี้ มักเป็นคนที่เลือกที่จะไม่แข่งกับคนอื่น หากแต่เลือกแข่งกับตัวเอง เลือกที่จะปลดปล่อยตัวตนของเค้าผ่านการแสดง เลือกที่จะตั้งเป้าหมายไปที่ ความยอมรับของคนดูและกรรมการ ไม่ใช่เงินรางวัล เมื่อเค้าตั้งเป้าถูกต้อง พลังจึงบังเกิด ความเป็นธรรมชาติและเนื้อแม้ของเค้าจึงเปล่งประกาย ไม่ว่าเค้าจะชนะการแข่งขันหรือไม่ เค้าก็ได้ชนะใจคนดูไปเรียบร้อยแล้ว
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันส่วนใหญ่ ขายความสามารถและความมุ่งมั่น ไม่ได้ขายรูปร่างและหน้าตา ดังนั้นหากเค้ายังชูจุดขายเดิมโดยไม่แปรเปลี่ยน เค้าจึงได้ปรากฏกายในงานต่างๆ ด้วยจุดขายนั้น โดยได้รับค่าตอบแทนทั้งในรูปตัวเงินและความชื่นชม บางครั้งเค้าก็ดังกว่าผู้ชนะบนเวทีซะอีก
ผลลัพธ์เหล่านี้ เริ่มต้นจาก "ความกล้า" เพียงคำเดียว
ถ้าเรากล้า เชื่อมั่น และพร้อมทุ่มเทในสิ่งที่ทำ ผมก็เชื่อว่า เราคงจะประสบความสำเร็จไม่ต่างจากบุคคลตัวอย่างที่ผมเล่าข้างต้น
แค่กล้า...ก็ชนะแล้ว จริงๆ ครับ ^^
* หมายเหตุ ไม่ได้รับค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะครับ อิอิ
Comments
Post a Comment