Post#2-18: Comfort Zone
เท่าที่ผมจำได้ เราคุยกันหลายต่อหลายครั้งใน page นี้ เกี่ยวกับเรื่อง comfort zone (แปลว่า "พื้นที่คุ้นชิน")
โดยธรรมชาติแล้ว คนเราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่สัจธรรมอันเป็นที่สุดนั้น กลับกลายเป็น "ไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง"...นึกแล้วผมก็ขำชีวิต
ผมทำงานมานานพอดู จึงพอจะพูดได้บ้างว่า ผู้คนจำนวนไม่น้อย ชอบทำงานด้วยวิธีเดิมๆ ไม่ค่อยชอบเปลี่ยนแปลง เคยทำยังไงก็อยากจะทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ โดยมีประโยคติดปากของผู้เสพติดความสุขใน comfort zone ว่า "ของเดิมก็ดีอยู่แล้ว จะเปลี่ยนทำไม?"
ยอมรับกันตามจริง ผมก็เห็นด้วยว่าการทำแบบเดิมๆ นะครับ มันง่ายและก็สบายดี เป็น comfort zone ที่เราหลับตาทำก็รู้ ก็ของมันเคยๆ ทำอยู่ทุกวัน...แต่ชีวิตมันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิครับ
ถ้าปัจจัยภายนอกไม่เปลี่ยนแปลงเลย ก็คงไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ทุกคนก็รู้ว่าโลกเปลี่ยน เรามิอาจไม่เปลี่ยน (Post#217) ดังนั้น คนที่ไม่เคยคิดจะออกจาก comfort zone เลย จึงมักจะมีปัญหาในระยะยาว เพราะทำแบบอื่นไม่เป็นเลย เมื่อ comfort zone เดิมถูกทำลายไป (หรือโดนบีบให้ออกจาก comfort zone) เค้าจึงเหมือนเคว้งคว้างอยู่กลางอวกาศ ไม่รู้ว่าทิศไหนเป็นทิศเหนือ ทิศไหนเป็นทิศใต้?
ในเมื่อมันเป็นธรรมดาโลกแบบนี้ เราจึงต้องคิดเผื่อทางสำรองของตัวเองบ้าง...เหมือนๆ กับที่ถ้าขับรถอยู่ถนนเส้นเดิมแล้วรถติด ก็ต้องหาทางเปลี่ยนเส้นทางบ้าง ไม่ใช่ยอมติดแบบเดิมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เริ่มต้นง่ายๆ แบบไม่ต้องลงทุน ก็คงต้องหันมามองแง่มุมดีๆ ของการออกจาก comfort zone กันบ้าง...ที่ชัดเจนเลยก็คือ มันเป็นความท้าทายใหม่ของชีวิต และเป็นทางเลือกในกรณีที่ทางเดินที่คุ้นชินเกิดไม่เวิร์คขึ้นมา
แต่ผมก็ไม่ได้หมายความว่า เราต้องหมั่นออกจาก comfort zone แบบตะพึดตะพือนะครับ...แบบนั้นก็จะกลายเป็นเปลี่ยนแปลงจนหาจุดยืนไม่เจอ
อ้อ! ที่สำคัญผมไม่ได้บอกว่า ให้เปลี่ยนงานบ่อยๆ นะครับ เพราะการออกจาก comfort zone นั้น หมายรวมไปถึงการเปลี่ยนวิธีทำงานแบบเดิมๆ ด้วยเช่นกัน
นั่นก็สรุปได้ว่า เรา "ควรจะทำงานเดิมด้วยวิธีการใหม่ๆ" ไม่ใช่ "ให้เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ เพื่อไปทำงานด้วยวิธีเดิมๆ"
ฝรั่งมีคำกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ดีมากครับว่า "Life begins at the end of your comfort zone." ซึ่งแปลว่า "ชีวิตเริ่มต้นขึ้น ณ ปลายทางของ comfort zone"
เห็นด้วยกันมั่งมั๊ยครับ ^^
เท่าที่ผมจำได้ เราคุยกันหลายต่อหลายครั้งใน page นี้ เกี่ยวกับเรื่อง comfort zone (แปลว่า "พื้นที่คุ้นชิน")
โดยธรรมชาติแล้ว คนเราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่สัจธรรมอันเป็นที่สุดนั้น กลับกลายเป็น "ไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง"...นึกแล้วผมก็ขำชีวิต
ผมทำงานมานานพอดู จึงพอจะพูดได้บ้างว่า ผู้คนจำนวนไม่น้อย ชอบทำงานด้วยวิธีเดิมๆ ไม่ค่อยชอบเปลี่ยนแปลง เคยทำยังไงก็อยากจะทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ โดยมีประโยคติดปากของผู้เสพติดความสุขใน comfort zone ว่า "ของเดิมก็ดีอยู่แล้ว จะเปลี่ยนทำไม?"
ยอมรับกันตามจริง ผมก็เห็นด้วยว่าการทำแบบเดิมๆ นะครับ มันง่ายและก็สบายดี เป็น comfort zone ที่เราหลับตาทำก็รู้ ก็ของมันเคยๆ ทำอยู่ทุกวัน...แต่ชีวิตมันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิครับ
ถ้าปัจจัยภายนอกไม่เปลี่ยนแปลงเลย ก็คงไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ทุกคนก็รู้ว่าโลกเปลี่ยน เรามิอาจไม่เปลี่ยน (Post#217) ดังนั้น คนที่ไม่เคยคิดจะออกจาก comfort zone เลย จึงมักจะมีปัญหาในระยะยาว เพราะทำแบบอื่นไม่เป็นเลย เมื่อ comfort zone เดิมถูกทำลายไป (หรือโดนบีบให้ออกจาก comfort zone) เค้าจึงเหมือนเคว้งคว้างอยู่กลางอวกาศ ไม่รู้ว่าทิศไหนเป็นทิศเหนือ ทิศไหนเป็นทิศใต้?
ในเมื่อมันเป็นธรรมดาโลกแบบนี้ เราจึงต้องคิดเผื่อทางสำรองของตัวเองบ้าง...เหมือนๆ กับที่ถ้าขับรถอยู่ถนนเส้นเดิมแล้วรถติด ก็ต้องหาทางเปลี่ยนเส้นทางบ้าง ไม่ใช่ยอมติดแบบเดิมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เริ่มต้นง่ายๆ แบบไม่ต้องลงทุน ก็คงต้องหันมามองแง่มุมดีๆ ของการออกจาก comfort zone กันบ้าง...ที่ชัดเจนเลยก็คือ มันเป็นความท้าทายใหม่ของชีวิต และเป็นทางเลือกในกรณีที่ทางเดินที่คุ้นชินเกิดไม่เวิร์คขึ้นมา
แต่ผมก็ไม่ได้หมายความว่า เราต้องหมั่นออกจาก comfort zone แบบตะพึดตะพือนะครับ...แบบนั้นก็จะกลายเป็นเปลี่ยนแปลงจนหาจุดยืนไม่เจอ
อ้อ! ที่สำคัญผมไม่ได้บอกว่า ให้เปลี่ยนงานบ่อยๆ นะครับ เพราะการออกจาก comfort zone นั้น หมายรวมไปถึงการเปลี่ยนวิธีทำงานแบบเดิมๆ ด้วยเช่นกัน
นั่นก็สรุปได้ว่า เรา "ควรจะทำงานเดิมด้วยวิธีการใหม่ๆ" ไม่ใช่ "ให้เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ เพื่อไปทำงานด้วยวิธีเดิมๆ"
ฝรั่งมีคำกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ดีมากครับว่า "Life begins at the end of your comfort zone." ซึ่งแปลว่า "ชีวิตเริ่มต้นขึ้น ณ ปลายทางของ comfort zone"
เห็นด้วยกันมั่งมั๊ยครับ ^^
Comments
Post a Comment