Post#2-126:
สำหรับใครบางคนที่เราเรียกเค้าว่า "เพื่อน" แล้ว เค้าอยู่กับเราทั้งในยามที่เรารุ่งเรืองและตกต่ำรึเปล่าครับ?
แล้วตัวเราเองล่ะ ได้อยู่ข้างๆ คนที่เค้าคิดว่าเราเป็นเพื่อนทั้งในยามที่เค้าสุขและทุกข์รึเปล่า?
ที่ผมว่าอยู่ข้างๆ นี่ ไม่จำเป็นว่าตัวเรากับเค้าต้องอยู่ติดกันนะครับ เราอาจจะอยู่ห่างกันก็ได้ แต่สำคัญที่เราส่งใจของเราไปอยู่กับเค้าในยามที่เค้าต้องการรึเปล่า?
...
ผมเล่าถึงนิยามของเพื่อนแท้ไปแล้วใน Post#332 และเล่าถึงหลักฐานพิสูจน์เพื่อนแท้ไปแล้วใน Post#2-31 และวันนี้ก็อยากจะแชร์ถึง "moment" หรือ "ช่วงเวลา" ที่เราอาจจะได้พิสูจน์ใจเพื่อน
ฝรั่งว่าไว้ว่า...
"When you're up, your friends know who you are. When you're down, you know who your friends are."
แปลว่า "เมื่อเราอยู่ในช่วงรุ่งเรือง อู้ฟู่, เพื่อนจะรู้จักเรา. เมื่อเราอยู่ในช่วงตกต่ำ ย่ำแย่, เมื่อนั้นแหละ เราจะได้รู้ว่า ใครเป็นเพื่อนเรา"
...
ในยามที่พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ก็ยังไม่สามารถก้าวผ่านอุปสรรคที่เผชิญอยู่ไปได้ ลองมองไปรอบๆ และอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
แม้เค้าอาจจะช่วยเหลือเราให้พ้นอุปสรรคด้วยตัวเค้าเองไม่ได้ แต่เค้าก็อาจช่วยแนะนำหรือให้แนวทางแก้ปัญหาได้ หรืออย่างน้อยกำลังใจที่เค้าให้เรา ก็อาจช่วยให้วันร้ายๆ ของเรา ไม่ได้ย่ำแย่จนเกินไปนัก
จริงอยู่ที่เพื่อนควรยื่นมือเข้าช่วยในยามที่เพื่อนลำบาก แต่ก็ต้องดูปัจจัยรอบข้างด้วยเช่นกัน...ที่สำคัญเราเองก็ต้องวิเคราะห์ให้ดีก่อนที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือใครก็ตาม ว่าเค้าอยู่ในสถานะที่ช่วยเหลือเราได้หรือไม่...
ไม่ใช่เค้าเองก็ลำบากอยู่แล้ว เรายังไปขอความช่วยเหลือเค้าอีก แล้วพอเค้าช่วยเราไม่ได้ เราก็ไปพาลเหมาเอาว่า เค้าไม่ยอมช่วย เค้าไม่ใช่เพื่อน
แบบนี้เข้าข่ายว่าเรา "งอแง" นะครับ
...
เมื่อผ่านพ้นวิกฤตไปได้ อย่าลืมโดยเด็ดขาด ว่าใครอยู่กับเราในยามที่เราตกต่ำ และใครที่กลับมา เฉพาะเมื่อเรากลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
ผมเองผ่านชีวิตมาเกือบจะครบ 40 ปี ผมจึงได้เรียนรู้และเข้าใจว่า จงอย่าเสียใจกับคนที่เป็น "เพื่อนกิน" แต่จงสำนึกและรู้สึกขอบคุณกับคนที่เป็น "เพื่อนแท้"
ความโชคดีของเรา ไม่ได้นับที่จำนวน "เพื่อนกิน" ที่เรามี แต่ควรวัดกันที่ว่า เรามี "เพื่อนแท้" กี่คน
ก่อนจะปลงว่า เราโชคร้ายที่ไม่เคยมี "เพื่อนแท้" ลองทบทวนดูดีๆ ก่อนว่า ก็แล้วเราล่ะ ได้เคยเป็น "เพื่อนแท้" ของใครบ้างรึเปล่า?
ถ้าคำตอบออกมาคือ "ไม่" ก็จงอย่าตีโพยตีพาย เพราะจะมี "เพื่อนแท้" ได้ ก็ต้องรู้จักเป็น "เพื่อนแท้" ก่อน
ไม่ลงทุนน้ำใจ ไฉนเลยจะได้ไมตรีเป็นการตอบแทน?
...
หยดหนึ่งแห่งน้ำตา เสี้ยวหนึ่งแห่งน้ำใจ ประโยคหนึ่งแห่งน้ำคำ และขณะหนึ่งของน้ำพักน้ำแรง ที่เพื่อนคนหนึ่งมีให้ในวันที่เราอยู่ก้นหลุม ล้วนเป็นสิ่งมีค่าควรแก่การสำนึกและจดจำ
หากใครเคยได้รับหยาดน้ำทิพย์เหล่านี้ จงจดจำมันไว้ด้วยหัวใจ และจงจารึกไว้ในลิ้นชักแห่งความทรงจำ...
หากสิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย...อีกร้อยปีบุญคุณและไมตรีเยี่ยงนี้ก็มิสมควรถูกลบเลือน
คารวะแด่มิตรแท้ทุกท่าน 3 จอกครับ \\(^_^)//
สำหรับใครบางคนที่เราเรียกเค้าว่า "เพื่อน" แล้ว เค้าอยู่กับเราทั้งในยามที่เรารุ่งเรืองและตกต่ำรึเปล่าครับ?
แล้วตัวเราเองล่ะ ได้อยู่ข้างๆ คนที่เค้าคิดว่าเราเป็นเพื่อนทั้งในยามที่เค้าสุขและทุกข์รึเปล่า?
ที่ผมว่าอยู่ข้างๆ นี่ ไม่จำเป็นว่าตัวเรากับเค้าต้องอยู่ติดกันนะครับ เราอาจจะอยู่ห่างกันก็ได้ แต่สำคัญที่เราส่งใจของเราไปอยู่กับเค้าในยามที่เค้าต้องการรึเปล่า?
...
ผมเล่าถึงนิยามของเพื่อนแท้ไปแล้วใน Post#332 และเล่าถึงหลักฐานพิสูจน์เพื่อนแท้ไปแล้วใน Post#2-31 และวันนี้ก็อยากจะแชร์ถึง "moment" หรือ "ช่วงเวลา" ที่เราอาจจะได้พิสูจน์ใจเพื่อน
ฝรั่งว่าไว้ว่า...
"When you're up, your friends know who you are. When you're down, you know who your friends are."
แปลว่า "เมื่อเราอยู่ในช่วงรุ่งเรือง อู้ฟู่, เพื่อนจะรู้จักเรา. เมื่อเราอยู่ในช่วงตกต่ำ ย่ำแย่, เมื่อนั้นแหละ เราจะได้รู้ว่า ใครเป็นเพื่อนเรา"
...
ในยามที่พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ก็ยังไม่สามารถก้าวผ่านอุปสรรคที่เผชิญอยู่ไปได้ ลองมองไปรอบๆ และอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
แม้เค้าอาจจะช่วยเหลือเราให้พ้นอุปสรรคด้วยตัวเค้าเองไม่ได้ แต่เค้าก็อาจช่วยแนะนำหรือให้แนวทางแก้ปัญหาได้ หรืออย่างน้อยกำลังใจที่เค้าให้เรา ก็อาจช่วยให้วันร้ายๆ ของเรา ไม่ได้ย่ำแย่จนเกินไปนัก
จริงอยู่ที่เพื่อนควรยื่นมือเข้าช่วยในยามที่เพื่อนลำบาก แต่ก็ต้องดูปัจจัยรอบข้างด้วยเช่นกัน...ที่สำคัญเราเองก็ต้องวิเคราะห์ให้ดีก่อนที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือใครก็ตาม ว่าเค้าอยู่ในสถานะที่ช่วยเหลือเราได้หรือไม่...
ไม่ใช่เค้าเองก็ลำบากอยู่แล้ว เรายังไปขอความช่วยเหลือเค้าอีก แล้วพอเค้าช่วยเราไม่ได้ เราก็ไปพาลเหมาเอาว่า เค้าไม่ยอมช่วย เค้าไม่ใช่เพื่อน
แบบนี้เข้าข่ายว่าเรา "งอแง" นะครับ
...
เมื่อผ่านพ้นวิกฤตไปได้ อย่าลืมโดยเด็ดขาด ว่าใครอยู่กับเราในยามที่เราตกต่ำ และใครที่กลับมา เฉพาะเมื่อเรากลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
ผมเองผ่านชีวิตมาเกือบจะครบ 40 ปี ผมจึงได้เรียนรู้และเข้าใจว่า จงอย่าเสียใจกับคนที่เป็น "เพื่อนกิน" แต่จงสำนึกและรู้สึกขอบคุณกับคนที่เป็น "เพื่อนแท้"
ความโชคดีของเรา ไม่ได้นับที่จำนวน "เพื่อนกิน" ที่เรามี แต่ควรวัดกันที่ว่า เรามี "เพื่อนแท้" กี่คน
ก่อนจะปลงว่า เราโชคร้ายที่ไม่เคยมี "เพื่อนแท้" ลองทบทวนดูดีๆ ก่อนว่า ก็แล้วเราล่ะ ได้เคยเป็น "เพื่อนแท้" ของใครบ้างรึเปล่า?
ถ้าคำตอบออกมาคือ "ไม่" ก็จงอย่าตีโพยตีพาย เพราะจะมี "เพื่อนแท้" ได้ ก็ต้องรู้จักเป็น "เพื่อนแท้" ก่อน
ไม่ลงทุนน้ำใจ ไฉนเลยจะได้ไมตรีเป็นการตอบแทน?
...
หยดหนึ่งแห่งน้ำตา เสี้ยวหนึ่งแห่งน้ำใจ ประโยคหนึ่งแห่งน้ำคำ และขณะหนึ่งของน้ำพักน้ำแรง ที่เพื่อนคนหนึ่งมีให้ในวันที่เราอยู่ก้นหลุม ล้วนเป็นสิ่งมีค่าควรแก่การสำนึกและจดจำ
หากใครเคยได้รับหยาดน้ำทิพย์เหล่านี้ จงจดจำมันไว้ด้วยหัวใจ และจงจารึกไว้ในลิ้นชักแห่งความทรงจำ...
หากสิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย...อีกร้อยปีบุญคุณและไมตรีเยี่ยงนี้ก็มิสมควรถูกลบเลือน
คารวะแด่มิตรแท้ทุกท่าน 3 จอกครับ \\(^_^)//
Comments
Post a Comment