Skip to main content

Post#2-122: ชีวิตตามกระแส

Post#2-122:
เมื่อเช้ามี Fanpage ท่านหนึ่ง ส่งคำถามมาใน inbox ว่า

"อยากรบกวนถามพี่บอยว่า พี่บอยมีเขียนเรื่องเกี่ยวสังคมหล่อหลอมให้เรามีพฤติกรรมแบบเดียวกันรึยังคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะพี่"

เมื่อปุจฉามา ผมก็ขออนุญาตวิสัชนาตามมุมมองของผมล่ะครับ

ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่า ธรรมชาติของผู้คนส่วนใหญ่น่ะชอบทำอะไรตามๆ กันอยู่แล้ว เพราะกลัวจะถูกมองว่าแปลกแยก ดังนั้นการทำอะไรตามๆ กันจะทำให้รู้สึกปลอดภัยมากกว่า

เหมือนๆ กับที่บางครั้งเราไม่รู้จะเลือกซื้อสินค้าแบบไหน ก็จะถามคนขายว่า แบบไหนขายดี หรือไปร้านอาหารที่ไม่คุ้นเคย ก็จะถามว่า ส่วนใหญ่แล้ว ลูกค้าสั่งอะไรกินบ่อยๆ

พฤติกรรมข้างต้นน่ะ เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ คนปกติทั่วไปก็เป็นกันทั้งนั้น ที่จริงต้องบอกว่า สัตว์สังคมทุก specie บนโลก ก็มีพฤติกรรมทำอะไรตามๆ กันเป็นสัญชาตญาณอยู่แล้ว ดังนั้น การทำอะไรตามไปกับสิ่งที่ทำมาก่อนหรือมีอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องสามัญ อยู่ในสังคมแบบไหน ก็มีแนวโน้มที่เราจะเป็นแบบนั้น

อยู่ในสังคมหรือสิ่งแวดล้อมที่ดี เราก็มีโอกาสที่ดี อยู่ในสังคมที่แย่ โอกาสที่เราจะดีก็มี แต่แนวโน้มไปในทางแย่ย่อมมีมากกว่า อยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ ที่ทุกคนเที่ยวกลางคืน เราจะไม่เที่ยวกลางคืนบ้างเหรอ? หรืออยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ที่ชอบเข้าวัดทำบุญ เราจะไม่ใฝ่ธรรมบ้าง ก็คงจะผิดแผกแปลกคนไปนิด

...

จนกระทั่งการมาถึงของยุค Social Network ครองโลก นั่นแหละครับ คำถามที่ว่า "สังคมหล่อหลอมให้เรามีพฤติกรรมเหมือนๆ กัน" จึงเกิดขึ้น

บางอย่างเราไม่ได้อยากทำเหมือนคนส่วนใหญ่ในโลกเสมือนจริง แต่เราก็ทำเพราะไม่อยากถูกแปลกแยก ทำให้เรากลายเป็นพวกไม่กล้าเห็นต่างบนโลกออนไลน์ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องกังวลกับ Cyber Identity มากนัก แต่กลายเป็นว่า กระแสแห่ง Social Network เป็นกระแสหลักที่เรามิอาจฝืนได้

เห็นกระแสอะไรที่ฮิต Post กันเยอะๆ เราก็แห่ตามเค้าไป ถ้าจะไม่ทำก็กลัวตกเทรนด์ ทั้งที่เราไม่ได้ชอบแบบนั้น แต่ก็ต้องทำ จนทำให้คนที่มองจากวงนอกรู้สึกว่าสังคมหล่อหลอมให้เรามีพฤติกรรมเหมือนๆ กันไปหมด ถ้าอยากรู้ว่าจริงมั๊ย ลองหยุดเล่น Social Network ซักพัก ก็รู้แล้วครับ

ยุคนี้ คนเรามักงมงายกับความฉาบฉวยและชั่วคราวของกระแสบน Social Network จนบางครั้ง Cyber Identity กับ Real Identity ของเราน่ะต่างกันแบบสุดขั้วก็มี บางคนหลอกตัวเองอยู่บน Cyberspace จนทำให้ Real Identity เปลี่ยนแปลงไปก็เยอะครับ

ตามกระแสน่ะได้ แต่อย่าให้เกินพอดีจนทำให้เราสูญเสียตัวตนไปเลยครับ

เห็นต่างไม่ได้แปลว่าผิด แต่แค่ต้องระวังในการแสดงความเห็นต่างให้ถูกกาละและเทศะมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการแสดงความต่างทางความคิดบน Cyber Space ต่างๆ

...

สังคมหล่อหลอมหรือชี้นำให้เราทำตามๆ กันได้ แต่ขึ้นอยู่กับเราว่า เราจะตามแบบขำๆ หรือจะปล่อยให้กระแสสังคมชี้นำชีวิตเราครับ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...