Post#2-144:
เย็นวานนี้ ผมนั่งทานมื้อค่ำกับเพื่อนรุ่นน้อง และฟังเธอปรับทุกข์เกี่ยวกับสภาพ Family Business ที่เธอต้องเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ผมเคยแชร์ความเห็นไว้บ้างแล้ว (Post#41) ว่าโดยมากมักจะเป็นเพราะกรอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันระหว่างรุ่นพ่อและรุ่นเราเป็นหลัก
และประเด็นคลาสิคที่สุดก็คือ ท่านยังคงไม่ได้รู้สึกและยอมรับได้ว่า เราโตพอที่จะรับผิดชอบทุกอย่างแทนท่านได้แล้ว
รุ่นลูกที่กำลังจะเข้าไปสืบทอดกิจการน่ะ ต้องทำใจยอมรับก่อนว่า เราคงไม่สามารถยกประเด็นเรื่องอายุไปเป็นข้อต่อสู้ให้ท่านวางใจได้ ว่าเรารับผิดชอบแทนท่านได้แล้ว เพราะไม่ว่าเราจะเติบโตขึ้นแค่ไหน แต่เราก็คือเด็กในสายตาของท่านอยู่ดี
ผมมักจะได้ยินรุ่นลูกบ่นเสมอๆ ว่า "พ่อดื้อ" หรือไม่ก็ "แม่ไม่ยอมฟัง" แต่มองกลับกันแล้ว ท่านก็คงกำลังคิดแบบเดียวกันอยู่นั่นเอง
จะให้ท่านยอมรับได้น่ะ ต้องใช้เวลา อย่าลืมว่า ท่านเองก็มีความภาคภูมิใจในธุรกิจที่ท่านสร้างมาอยู่ไม่น้อย จู่ๆ จะให้ท่านยอมรับว่า แนวทางที่ท่านทำมานั้นผิดพลาดหรือล้าสมัยน่ะ คงยากที่ท่านจะยอมรับ
โดยเฉพาะเมื่อคนที่กำลังบอกท่านว่า ท่านทำได้ไม่ดีพอน่ะ เป็นคนที่เติบโตมาจากกำลังสมองและน้ำพักน้ำแรงของท่านแท้ๆ...
ผมเองก็ได้แต่ฟังด้วยความเห็นใจ แต่ถ้าใครคิดจะไปเปลี่ยนความคิดท่านน่ะ ก็ต้องบอกว่ายากหน่อยครับ เพราะไม่ใช่ท่านจะไม่เข้าใจโลก แต่มันยากที่ท่านจะยอมรับได้ต่างหาก
เข้าทำนอง "สมองเข้าใจ แต่หัวใจไม่ยอมรับ" เหมือนกับหลายๆ เรื่องที่ผมเคยนำมาแชร์นั่นเอง
...
คำแนะนำที่ผมมีให้แก่เพื่อนรุ่นน้องก็คือ "ในเมื่อรู้ว่าเปลี่ยนท่านได้ยาก ก็เปลี่ยนแนวทางของเราในการคุยและสร้างความไว้วางใจให้กับท่านจะดีกว่า"
แทนที่จะไปบอกว่า ท่านกำลังทำผิด ก็ควรจะบอกท่านว่า เราเห็นด้วยกับท่าน แต่ขอเรานำเสนออีกมุมหนึ่งให้ท่านรับทราบไว้ เราขอแค่นั้น
ในเมื่อรู้ว่า ทะเลาะกับท่านไป รังแต่จะทำให้เราเสียกำลังใจและท่านเสียหน้า สู้ใช้ yes, but อย่างที่ผมว่าไว้จะดีกว่า
ถ้าผลลัพธ์ออกมา เราถูก แม้ท่านจะไม่พูด แต่หัวใจท่านจะรู้สึกเปิดรับความเป็นผู้ใหญ่ของเรามากขึ้น และจะค่อยๆ ฟังเรามากขึ้นทีละน้อย
แต่อย่าไปเกทับท่านนะครับ เพราะถ้าทำอย่างนั้น รับรองศพไม่สวยแน่ๆ >_<"
ถ้าผลลัพธ์ออกมา ท่านถูก อย่าลืมเข้าไปหาและชื่นชมท่าน พร้อมชิงจังหวะนี้นำเสนอแผนต่อเนื่อง เป็นการพลิกมาเล่นเกมของเรา
ส่วนถ้าเจอท่านเกทับมา ให้ใช้วิธียิ้มสู้และประจบเอาใจท่านจะดีกว่า อย่าไปมัวเอาแง่เอางอนหรือรู้สึกว่าเราหน้าแตกเลยครับ ไม่มีประโยชน์
...
ผมไม่อาจรับประกันผลสำเร็จใดๆ ได้จากคำแนะนำ ในการดีลกับรุ่นพ่อ เพราะสภาพแวดล้อมหลายๆ อย่างของแต่ละครอบครัวนั้นต่างกัน...แต่ขอฝากไว้นิดเถอะครับ
...ไม่ว่าปากท่านจะพูดอะไร รุ่นลูกๆ อย่างเรา ก็น่าจะเข้าใจเจตนาของท่าน รวมไปถึงได้ยินในสิ่งที่ท่านไม่ได้พูดบ้าง...
ยังไงผมก็เอาใจช่วยรุ่นลูกๆ ทุกคนนะครับ
Comments
Post a Comment