Skip to main content

Post#2-142: แบตฯ เสื่อม

Post#2-142:
ผมเชื่อว่าทุกคนมีโทรศัพท์มือถือใช้...

ทุกๆ วันเราก็มักจะเซ็งกับปัญหาแบตฯ ไม่ค่อยพอใช้ในแต่ละวัน ต้องคอยชาร์จอยู่เรื่อยๆ ไม่ก็พึ่งพา Power Bank

แต่จะมีซักกี่คนที่ไปพิจารณาว่า สาเหตุที่แบตฯ ไม่พอใช้น่ะ เกิดจากอะไรกันแน่?

อาจจะเพราะเราใช้หลาย app พร้อมๆ กัน, เมื่อคืนลืมชาร์จแบตฯ, ไม่ก็แบตฯ เสื่อม, มือถือเก่า, ใช้เครื่องชาร์จผิดประเภท, ฯลฯ

หันกลับมามองชีวิตกันบ้างมั๊ยครับ...

พลังงานทั้งทางกายและใจ ก็ล้วนต้องชาร์จแบตฯ เหมือนกัน มากบ้างน้อยบ้าง ขึ้นกับสภาพความหนักเบาที่เจอในแต่ละวัน

บางวันประชุมหนัก เรื่องเยอะ ก็ไม่ต่างจากเราเปิดหลาย app พร้อมๆ กัน แบตฯ ก็ต้องหมดเร็วเป็นธรรมดา

เมื่อคืนไปท่องราตรีหนัก ไม่ก็มัวแต่ท่องเวป ส่องเฟส แล้วก็ต้องตื่นแต่เช้ามาทำงาน ก็ไม่ต่างจากมือถือที่ลืมชาร์จแบตฯ บ่ายๆ ก็เลยมีแอบง่วง ประมาณนี้

บางครั้งแบตฯ เต็มก็ยังชาร์จจนแบตฯ เสื่อมก็มี เช่นหยุดยาวติดๆ กัน พอกลับมาทำงานก็เลยรู้สึกเหนื่อยเร็วกว่าปกติ ตัวขี้เกียจมันเกาะตามข้อต่อไปซะแล้วนี่นา

...

จะเห็นว่า อาการแบตฯ เสื่อมและอาการหมดพลังของเราก็ไม่ต่างกัน...

แต่ที่ผมพบว่า เป็นปัญหาที่สุดก็คือ เรามักใช้ที่ชาร์จแบตฯ ไม่ตรง spec มือถือ หรือเปรียบได้กับการเลือกวิธีเติมพลังกายและใจไม่ถูกวิธี

เอาที่ชาร์จ iPhone ไปชาร์จ iPad นอกจากแบตฯ เต็มช้าแล้วก็ยังเสื่อมอีกด้วย ดังนั้นลูกน้องอาจจะอยากได้คำชื่นชมเป็นแรงกระตุ้น แต่เราดันให้แต่เสียงด่าและแรงกดดัน

กลางคืนต้องชาร์จแบตฯ ด้วยการนอน แต่ดันออกไปเที่ยว พอเช้ามาก็แบตฯ เสื่อม แล้วก็ลาป่วยแบบไม่เคารพต่อความเป็นมืออาชีพ

...

แบตฯ เสื่อมจากการใช้งานอันถูกอันควร เป็นเรื่องอันเลี่ยงไม่ได้ แต่แบตฯ เสื่อมอันเนื่องมาจากเหตุอื่นๆ ที่ผมว่ามานี่...

น่าจะโทษตัวเราที่มีความรับผิดชอบไม่ดีพอรึเปล่าครับ?

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...