Post#3-188:
ในช่วงกว่าศตวรรษที่ผ่านมานั้น เหล่านักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ ต่างก็พยายามที่จะตามหาสุดขอบของจักรวาล
จนถึงวันนี้ เราก็ยังไม่รู้ชัดว่า สุดขอบจักรวาลมีจริงหรือไม่...มีเพียงแต่ทฤษฎีต่างๆ มาอธิบายเท่านั้น
แต่เมื่อมีการผลิตอุปกรณ์ส่องจักรวาลที่ดีขึ้น ก็ทำให้เราได้ค้นพบหลักฐานใหม่ๆ เกี่ยวกับสุดขอบจักรวาลมากขึ้นเรื่อยๆ
...
ก่อนหน้าที่มนุษยชาติจะรู้ว่าโลกกลม เราต่างก็เชื่อว่าขอบเขตที่มนุษย์จะไปถึงได้ก็คือขอบโลก
ต่อเมื่อมนุษย์รู้ว่าโลกกลมและไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ขอบเขตของมนุษย์จึงกว้างขึ้นและไกลขึ้น
...และดูเหมือนขอบเขตแห่งจักรวาลจะกว้างไกลขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเราหมั่นศึกษา ค้นคว้า และเพิ่มเติมศักยภาพแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สำหรับผมแล้ว...คำถามเรื่องสุดขอบจักรวาลนี้ ก็สามารถนำมาเปรียบเทียบกับคำถามว่าด้วยเรื่องสุดขีดความสามารถของตัวเราได้เช่นกัน
...
ในเมื่อขอบเขตของจักรวาลขึ้นอยู่กับข้อมูลและความเชื่อของคนเรา...ดังนั้น ขอบเขตของความเป็นไปได้และขอบเขตของความสามารถในตัวเรา...ก็ไม่น่าจะต่างกัน
ถ้ามนุษย์มัวแต่เชื่อว่าโลกแบน ขอบเขตของมนุษย์ก็คงหยุดอยู่แค่ขอบโลก...
ถ้าเรามัวแต่เชื่อว่า เราทำได้แค่นี้ เราทำดีกว่านี้ไม่ได้...เราก็คงต้องอยู่บนโลกแบนๆ ไปตลอดชีวิต
...
ใครก็ไม่รู้ครับ...ที่ฝากวาทะนี้ไว้ให้เราคิดต่อ, เค้าว่าไว้ว่า...
"The only limits you have are the limits you believe."
แปลว่า "ขอบจำกัดเดียวที่เรามีก็คือ ขอบเขตแห่งความเชื่อที่เรามี นั่นเอง"
...จะเลือกมีความสุขอยู่กับขอบโลก...หรือพร้อมจะออกไปหาสุดขอบจักรวาล กันดีครับ?
ในช่วงกว่าศตวรรษที่ผ่านมานั้น เหล่านักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ ต่างก็พยายามที่จะตามหาสุดขอบของจักรวาล
จนถึงวันนี้ เราก็ยังไม่รู้ชัดว่า สุดขอบจักรวาลมีจริงหรือไม่...มีเพียงแต่ทฤษฎีต่างๆ มาอธิบายเท่านั้น
แต่เมื่อมีการผลิตอุปกรณ์ส่องจักรวาลที่ดีขึ้น ก็ทำให้เราได้ค้นพบหลักฐานใหม่ๆ เกี่ยวกับสุดขอบจักรวาลมากขึ้นเรื่อยๆ
...
ก่อนหน้าที่มนุษยชาติจะรู้ว่าโลกกลม เราต่างก็เชื่อว่าขอบเขตที่มนุษย์จะไปถึงได้ก็คือขอบโลก
ต่อเมื่อมนุษย์รู้ว่าโลกกลมและไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ขอบเขตของมนุษย์จึงกว้างขึ้นและไกลขึ้น
...และดูเหมือนขอบเขตแห่งจักรวาลจะกว้างไกลขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเราหมั่นศึกษา ค้นคว้า และเพิ่มเติมศักยภาพแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สำหรับผมแล้ว...คำถามเรื่องสุดขอบจักรวาลนี้ ก็สามารถนำมาเปรียบเทียบกับคำถามว่าด้วยเรื่องสุดขีดความสามารถของตัวเราได้เช่นกัน
...
ในเมื่อขอบเขตของจักรวาลขึ้นอยู่กับข้อมูลและความเชื่อของคนเรา...ดังนั้น ขอบเขตของความเป็นไปได้และขอบเขตของความสามารถในตัวเรา...ก็ไม่น่าจะต่างกัน
ถ้ามนุษย์มัวแต่เชื่อว่าโลกแบน ขอบเขตของมนุษย์ก็คงหยุดอยู่แค่ขอบโลก...
ถ้าเรามัวแต่เชื่อว่า เราทำได้แค่นี้ เราทำดีกว่านี้ไม่ได้...เราก็คงต้องอยู่บนโลกแบนๆ ไปตลอดชีวิต
...
ใครก็ไม่รู้ครับ...ที่ฝากวาทะนี้ไว้ให้เราคิดต่อ, เค้าว่าไว้ว่า...
"The only limits you have are the limits you believe."
แปลว่า "ขอบจำกัดเดียวที่เรามีก็คือ ขอบเขตแห่งความเชื่อที่เรามี นั่นเอง"
...จะเลือกมีความสุขอยู่กับขอบโลก...หรือพร้อมจะออกไปหาสุดขอบจักรวาล กันดีครับ?
Comments
Post a Comment