Post#3-334:
ผมมีเพื่อนและลูกน้องที่เป็นผู้หญิงอยู่ค่อนข้างมาก...นับจำนวนดูแล้ว ไม่รู้ว่าผู้ชายที่ทำงาน office ทำไมมีน้อยเหลือเกินก็ไม่ทราบ
หนึ่งในปัญหาของคนทำงาน office คงหนีไม่พ้นเรื่อง Office Syndrome ที่ถือเป็นเรื่องไม่เล็กเลย
นั่งทำงานนานๆ, ตาก็จ้องจอคอมฯ, มือก็จิ้มคีย์บอร์ด และทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง ที่ส่วนมากเป็นงานที่ไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
ที่สำคัญ ชาว office ทั้งหลาย มักมีนิสัยกินจุบกินจิบ ทั้งพวกขนมขบเคี้ยว, ขนมหาบเร่ และเครื่องดื่มจำพวกชาหรือกาแฟที่ชงขายกันทุกหัวถนน
เรียกว่านอกจากลักษณะของงานก็ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพแล้ว ยังมีแรงบวกพวกพฤติกรรมการกินเข้ามาซ้ำเติมอีก
ผมได้ยินสาวๆ บ่นว่า "อ้วนๆ" อยู่แทบจะทุกวัน งั้นวันนี้ก็ขอชวนคุยเรื่องนี้สักหน่อย ก็แล้วกันนะครับ
...
ภาวะอ้วน จึงถือเป็นภาวะประจำของสาวๆ office ทั้งหลาย...และแทบทุกคนที่บ่นว่าอ้วน ล้วนแล้วแต่มีพฤติกรรมการกินที่ไม่ค่อยถูกต้อง อย่างที่ว่า
ไม่ใช่ว่าจะจ้องโจมตีสาวๆ นะครับ แต่ผู้ชายทั้งหลายไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องความอ้วนสักเท่าไหร่ หรืออาจจะมีความเชื่อว่า "ลูกผู้ชายต้องไว้พุง" ก็ไม่ทราบได้สิครับ
สาวๆ หลายๆ คนจึง "อยาก" ลดความอ้วน แต่ไม่ใช่ทุกคนแปลงความ "อยาก" ให้เป็นการ "ลงมือ" ลดแบบจริงๆ จังๆ
เรื่องจึงจบลงด้วยวงจร กิน-->อ้วน-->เครียด-->บ่น-->อด-->หิว-->กิน เป็นอยู่แบบนี้เรื่อยไป...ตราบที่ไม่เปลี่ยนพฤติกรรมแบบนี้ ตราบนั้นความอ้วนก็ยังเป็นเพื่อนสนิทของคุณสาวๆ ต่อไป
...
ความจริงการลดความอ้วน ก็เหมือนการทำ project คือถ้าไม่กำหนด Goal และ Timeline ก็อย่าหวังเลยครับ ว่าจะลดได้
คุณสาวๆ ทั้งหลายจึงต้องชัดเจนและมุ่งมั่น ว่าภายในวันไหนจะลดน้ำหนักให้ได้เท่าไหร่...ไม่ใช่บอกว่าจะลดแต่ปากยังเคี้ยวหยับๆ อยู่อย่างนั้น
ที่สำคัญการลดความอ้วน ไม่ใช่การอดอาหาร แต่เป็นการควบคุมอาหารที่จะเอาเข้าปาก
และสำคัญไม่แพ้กัน ที่ต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย...อ้อ! แล้วก็ที่ไป fitness แล้วแค่ selfie มาลง Facebook หรือ IG นั้นน่ะ ไม่นับนะครับ ^^
...ถ้าคิดว่า "พรุ่งนี้ค่อยลด" ไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีวันลดความอ้วนได้ เช่นเดียวกับถ้าคิดว่า "พรุ่งนี้ค่อยทำ" งานก็ไม่มีวันสำเร็จได้ครับ...
ผมมีเพื่อนและลูกน้องที่เป็นผู้หญิงอยู่ค่อนข้างมาก...นับจำนวนดูแล้ว ไม่รู้ว่าผู้ชายที่ทำงาน office ทำไมมีน้อยเหลือเกินก็ไม่ทราบ
หนึ่งในปัญหาของคนทำงาน office คงหนีไม่พ้นเรื่อง Office Syndrome ที่ถือเป็นเรื่องไม่เล็กเลย
นั่งทำงานนานๆ, ตาก็จ้องจอคอมฯ, มือก็จิ้มคีย์บอร์ด และทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง ที่ส่วนมากเป็นงานที่ไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
ที่สำคัญ ชาว office ทั้งหลาย มักมีนิสัยกินจุบกินจิบ ทั้งพวกขนมขบเคี้ยว, ขนมหาบเร่ และเครื่องดื่มจำพวกชาหรือกาแฟที่ชงขายกันทุกหัวถนน
เรียกว่านอกจากลักษณะของงานก็ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพแล้ว ยังมีแรงบวกพวกพฤติกรรมการกินเข้ามาซ้ำเติมอีก
ผมได้ยินสาวๆ บ่นว่า "อ้วนๆ" อยู่แทบจะทุกวัน งั้นวันนี้ก็ขอชวนคุยเรื่องนี้สักหน่อย ก็แล้วกันนะครับ
...
ภาวะอ้วน จึงถือเป็นภาวะประจำของสาวๆ office ทั้งหลาย...และแทบทุกคนที่บ่นว่าอ้วน ล้วนแล้วแต่มีพฤติกรรมการกินที่ไม่ค่อยถูกต้อง อย่างที่ว่า
ไม่ใช่ว่าจะจ้องโจมตีสาวๆ นะครับ แต่ผู้ชายทั้งหลายไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องความอ้วนสักเท่าไหร่ หรืออาจจะมีความเชื่อว่า "ลูกผู้ชายต้องไว้พุง" ก็ไม่ทราบได้สิครับ
สาวๆ หลายๆ คนจึง "อยาก" ลดความอ้วน แต่ไม่ใช่ทุกคนแปลงความ "อยาก" ให้เป็นการ "ลงมือ" ลดแบบจริงๆ จังๆ
เรื่องจึงจบลงด้วยวงจร กิน-->อ้วน-->เครียด-->บ่น-->อด-->หิว-->กิน เป็นอยู่แบบนี้เรื่อยไป...ตราบที่ไม่เปลี่ยนพฤติกรรมแบบนี้ ตราบนั้นความอ้วนก็ยังเป็นเพื่อนสนิทของคุณสาวๆ ต่อไป
...
ความจริงการลดความอ้วน ก็เหมือนการทำ project คือถ้าไม่กำหนด Goal และ Timeline ก็อย่าหวังเลยครับ ว่าจะลดได้
คุณสาวๆ ทั้งหลายจึงต้องชัดเจนและมุ่งมั่น ว่าภายในวันไหนจะลดน้ำหนักให้ได้เท่าไหร่...ไม่ใช่บอกว่าจะลดแต่ปากยังเคี้ยวหยับๆ อยู่อย่างนั้น
ที่สำคัญการลดความอ้วน ไม่ใช่การอดอาหาร แต่เป็นการควบคุมอาหารที่จะเอาเข้าปาก
และสำคัญไม่แพ้กัน ที่ต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย...อ้อ! แล้วก็ที่ไป fitness แล้วแค่ selfie มาลง Facebook หรือ IG นั้นน่ะ ไม่นับนะครับ ^^
...ถ้าคิดว่า "พรุ่งนี้ค่อยลด" ไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีวันลดความอ้วนได้ เช่นเดียวกับถ้าคิดว่า "พรุ่งนี้ค่อยทำ" งานก็ไม่มีวันสำเร็จได้ครับ...
Comments
Post a Comment