Post#3-348:
เมื่อเช้านี้ ผมมีโอกาสได้คุยงานกับเพื่อนที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย (สมมติว่าชื่อ K ก็แล้วกันนะครับ)...ที่ผมเชิญมาทำงานด้วยในช่วงนี้ (โดยจ่ายค่าวิชาชีพตามปกติ)
หลังจากเสร็จงานแล้ว ผมกับ K ก็คุยกันในเรื่องสัพเพเหระนิดๆ หน่อยๆ...ซึ่งหนึ่งในหัวข้อที่คุยกันก็คือเรื่องเศรษฐกิจ
ผมถาม K ว่า ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ มีผลกระทบกับรายได้บ้างรึเปล่า?
K บอกว่า ก็มีบ้าง ซึ่งก็รับได้ เพราะเข้าใจถึงภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีนัก...แต่ที่ยอมรับไม่ค่อยได้ก็คือ การที่โดนเบี้ยวค่าจ้าง หรือไม่เบี้ยวก็ตั้งใจไม่จ่ายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากเพื่อนหรือคนรู้จัก
...
ผมมีเพื่อนหลายคนเป็นหมอรักษาคน...และหลายคนก็บ่นให้ผมฟัง คล้ายๆ กับที่ K บ่น เหมือนกัน...คือเพื่อนหรือคนรู้จัก (บางคนนะครับ) มักจะไม่ยอมจ่ายค่าวิชาชีพในการรักษา
แม้ว่าจะทั้งหมอคนและหมอความ จะไม่มีต้นทุนสินค้าให้แบกรับ...แต่ก็มีต้นทุนเรื่อง "การใช้ความคิด" และ "เวลา" ค่อนข้างมาก ที่ต้องใช้คุยกับคนไข้หรือลูกค้า
จริงๆ แล้วทั้งเพื่อนผมที่เป็นหมอคน และ K ไม่ค่อยจะคิดมาก เวลาเพื่อนๆ หรือน้องๆ ขอคำแนะนำในเรื่องเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ หรือถามว่า ถ้ากรณีแบบนี้ ต้องเตรียมเอกสารทางกฎหมายยังไง
แต่ถ้าถามเริ่มเจาะรายละเอียดมากขึ้น และใช้เวลามากขึ้น...ทั้งหมอคน และ K ก็จำจะต้องบอกว่า ถ้าถามลงรายละเอียดขนาดนี้ ขอเชิญมานั่งคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว และจะต้องมีค่าใช้จ่ายนะ
ทั้งนี้อย่างที่บอกว่า ทั้งหมอคน และ K ต่างก็มีต้นทุนในเรื่องเวลา ที่ต้องนำไปแปลงเป็นรายได้เพื่อหาเลี้ยงชีพ...ไม่สามารถปล่อยให้เป็นเรื่อง "ฟรี" ได้ทุกวัน
ที่สำคัญคือ ความเห็นของหมอคนและหมอความ ที่จะต้องให้ไปกับลูกค้านั้น...ไม่สามารถ "มั่ว" ได้
แปลว่า เวลาและความรู้ทางวิชาชีพ จึงกลายเป็นต้นทุนสำคัญและแหล่งรายได้เดียวที่ทั้ง 2 หมอ มีอยู่
...
สรุปว่า ของซื้อของขายโดยทั่วไปนั้น จับต้องสัมผัสได้...แต่ของซื้อของขายของหมอคนและหมอความ ก็คือ ความรู้ทางวิชาชีพ และเวลา
เป็นเพื่อนกันขอกันได้ ไม่ว่ากัน...ทั้งหมอคนและ K ต่างก็ยินดี...แต่ต้องขอให้เข้าใจบ้าง ไม่ใช่โทรมาปุ๊บ เค้าต้องว่างเสมอ, ไม่ใช่โทรมากี่โมง จะดึกดื่นค่อนคืนก็ได้ เพราะเป็นเพื่อนกัน และไม่ใช่ "อะไรกัน แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้ K ก็ไม่เห็นมีต้นทุนอะไร"
วันนี้ หวังว่าหลายๆ คน คงเข้าใจ ว่าไม่ใช่พวกเค้าไม่มีต้นทุน แต่เผอิญว่าต้นทุนที่พวกเค้ามี เพื่อนดันไม่เข้าใจและมันก็เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น
...ถ้าคราวหน้า K เดินไปเคาะประตูบ้านเพื่อนบ้าง เพื่อขอไปเอาสินค้าตอนตีสอง แต่ไม่จ่ายเงินนะ...หวังว่าคุณเพื่อนคงไม่ว่าอะไร Kใช่มั๊ยเอ่ย?...
เมื่อเช้านี้ ผมมีโอกาสได้คุยงานกับเพื่อนที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย (สมมติว่าชื่อ K ก็แล้วกันนะครับ)...ที่ผมเชิญมาทำงานด้วยในช่วงนี้ (โดยจ่ายค่าวิชาชีพตามปกติ)
หลังจากเสร็จงานแล้ว ผมกับ K ก็คุยกันในเรื่องสัพเพเหระนิดๆ หน่อยๆ...ซึ่งหนึ่งในหัวข้อที่คุยกันก็คือเรื่องเศรษฐกิจ
ผมถาม K ว่า ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ มีผลกระทบกับรายได้บ้างรึเปล่า?
K บอกว่า ก็มีบ้าง ซึ่งก็รับได้ เพราะเข้าใจถึงภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีนัก...แต่ที่ยอมรับไม่ค่อยได้ก็คือ การที่โดนเบี้ยวค่าจ้าง หรือไม่เบี้ยวก็ตั้งใจไม่จ่ายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากเพื่อนหรือคนรู้จัก
...
ผมมีเพื่อนหลายคนเป็นหมอรักษาคน...และหลายคนก็บ่นให้ผมฟัง คล้ายๆ กับที่ K บ่น เหมือนกัน...คือเพื่อนหรือคนรู้จัก (บางคนนะครับ) มักจะไม่ยอมจ่ายค่าวิชาชีพในการรักษา
แม้ว่าจะทั้งหมอคนและหมอความ จะไม่มีต้นทุนสินค้าให้แบกรับ...แต่ก็มีต้นทุนเรื่อง "การใช้ความคิด" และ "เวลา" ค่อนข้างมาก ที่ต้องใช้คุยกับคนไข้หรือลูกค้า
จริงๆ แล้วทั้งเพื่อนผมที่เป็นหมอคน และ K ไม่ค่อยจะคิดมาก เวลาเพื่อนๆ หรือน้องๆ ขอคำแนะนำในเรื่องเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ หรือถามว่า ถ้ากรณีแบบนี้ ต้องเตรียมเอกสารทางกฎหมายยังไง
แต่ถ้าถามเริ่มเจาะรายละเอียดมากขึ้น และใช้เวลามากขึ้น...ทั้งหมอคน และ K ก็จำจะต้องบอกว่า ถ้าถามลงรายละเอียดขนาดนี้ ขอเชิญมานั่งคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว และจะต้องมีค่าใช้จ่ายนะ
ทั้งนี้อย่างที่บอกว่า ทั้งหมอคน และ K ต่างก็มีต้นทุนในเรื่องเวลา ที่ต้องนำไปแปลงเป็นรายได้เพื่อหาเลี้ยงชีพ...ไม่สามารถปล่อยให้เป็นเรื่อง "ฟรี" ได้ทุกวัน
ที่สำคัญคือ ความเห็นของหมอคนและหมอความ ที่จะต้องให้ไปกับลูกค้านั้น...ไม่สามารถ "มั่ว" ได้
แปลว่า เวลาและความรู้ทางวิชาชีพ จึงกลายเป็นต้นทุนสำคัญและแหล่งรายได้เดียวที่ทั้ง 2 หมอ มีอยู่
...
สรุปว่า ของซื้อของขายโดยทั่วไปนั้น จับต้องสัมผัสได้...แต่ของซื้อของขายของหมอคนและหมอความ ก็คือ ความรู้ทางวิชาชีพ และเวลา
เป็นเพื่อนกันขอกันได้ ไม่ว่ากัน...ทั้งหมอคนและ K ต่างก็ยินดี...แต่ต้องขอให้เข้าใจบ้าง ไม่ใช่โทรมาปุ๊บ เค้าต้องว่างเสมอ, ไม่ใช่โทรมากี่โมง จะดึกดื่นค่อนคืนก็ได้ เพราะเป็นเพื่อนกัน และไม่ใช่ "อะไรกัน แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้ K ก็ไม่เห็นมีต้นทุนอะไร"
วันนี้ หวังว่าหลายๆ คน คงเข้าใจ ว่าไม่ใช่พวกเค้าไม่มีต้นทุน แต่เผอิญว่าต้นทุนที่พวกเค้ามี เพื่อนดันไม่เข้าใจและมันก็เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น
...ถ้าคราวหน้า K เดินไปเคาะประตูบ้านเพื่อนบ้าง เพื่อขอไปเอาสินค้าตอนตีสอง แต่ไม่จ่ายเงินนะ...หวังว่าคุณเพื่อนคงไม่ว่าอะไร Kใช่มั๊ยเอ่ย?...
Comments
Post a Comment