Post#3-357:
ด้วยความที่เดินทางในแถบ CLMV บ่อยเสียเหลือเกิน เลยทำให้ผมเกิดความเคยชินกับการไม่ต้องขอ VISA
ทำให้บางครั้ง เกือบจะหน้าแตกบ่อยๆ เพราะกำหนดแผนเดินทางเสร็จแล้ว เกือบลืมเช็คว่า ประเทศที่จะไปนั้น ต้องขอ VISA ด้วยมั๊ยหนอ?
หลายท่านคงทราบอยู่แล้ว ว่าปัจจุบันคนไทยเราเดินทางไปได้ถึง 29 ประเทศ โดยไม่ต้องขอ VISA ครับ (หาใน Google ได้เลยครับ)
...
ช่วงสิบกว่าปีก่อน ผมเดินทางเป็นว่าเล่น แต่ส่วนมากเป็นการติดตามเจ้านายไปทำงาน และโชคดีที่เจ้านายยังเมตตา ให้ได้ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง...แต่กระนั้น ก็เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้เห็นโลกกว้างขึ้นอย่างยอดยิ่ง
ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น, ได้เรียนรู้อะไรที่ไม่เคยรู้ และได้ทำอะไรอีกหลายต่อหลายอย่างที่ไม่มีให้ทำในเมืองไทย
ที่สำคัญคือโอกาสในการเรียนรู้นิสัยใจคอของผู้คนต่างถิ่น, ได้ศึกษาวิธีคิด, ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่าง
ดังนั้น ใครที่มีโอกาสและศักยภาพ...จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเดินทางไปต่างบ้านต่างเมืองบ้าง...
แม้จะเป็นการไปกับ "ชะโงกทัวร์" ก็ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้ประสบการณ์ที่มีค่าแล้วล่ะครับ ^^
...
บางคนไม่ชอบเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง ด้วยเหตุผลคือ ขี้เกียจบ้าง, กลัวบ้าง หรือมีงบน้อยบ้าง
ว่าด้วยเรื่องงบน้อยก่อน...เพราะเดี๋ยวนี้การเดินทางใช้งบน้อยลง, มีตัวเลือกมากขึ้น...เรียกว่า "ใครๆ ก็บินได้" (สาบานว่า ไม่ได้แอบโฆษณาให้กับสายการบินใดเลยครับ ^^)
ส่วนเรื่องขี้เกียจ...ถ้าในแต่ละวันใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนของกรุงเทพฯ ได้ ผมว่าเราไม่น่าใช้คำตอบนี้ เป็นตัวปิดกั้นโอกาสในการไปเจอประสบการณ์ใหม่
เสียเวลาเดินทาง, ทนอุดอู้อยู่บนเครื่องไม่นาน...แต่รับรองว่า ล้อเครื่องบินแตะพื้นปั๊บ ความรู้สึกของเราจะเปลี่ยนไปทันที (ถ้าไม่ได้ไปทำงานนะครับ)
...
แต่สำหรับเรื่องกลัวนั้น...อันนี้มันอยู่ที่วิธีคิดครับ
ปัจจุบันข้อมูลในการไปท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ นั้น หาได้ง่ายเพียงแค่ขยับปลายนิ้วเท่านั้น
แปลว่า...เมื่อเรามีข้อมูลพอ, รู้ว่าจะไปทำอะไร, ที่ไหน และยังไง...ก็ไม่เห็นมีอะไรที่จะยากเกินไปนัก ต่อให้ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงก็เถอะ
ถ้ายังไม่มั่นใจและยังกลัวความไม่คุ้นชินมากอยู่...ก็ไปกับทัวร์ก่อนครับ
เที่ยวตอนยังมีแรงนี่ดีที่สุดแล้วครับ...ถ้ามัวแต่รอเก็บเงินเยอะๆ หรือมัวแต่กลัวนั่น นู่น นี่...รู้สึกตัวอีกที อาจจะได้ไปเที่ยวพร้อมไม้เท้าก็เป็นได้
...
ข้อที่ผมชอบอีกประการหนึ่ง สำหรับการไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ก็คือ การที่เราจะมีโอกาสได้กลายสภาพจาก Somebody ไปเป็น Nobody
เมื่อไม่ค่อยมีใครรู้จัก...ก็ทำให้เราเป็นตัวเองได้มากขึ้น, ลด ego ได้มากขึ้น และได้ทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้นด้วย
...เมื่อได้เดินทางมากขึ้น...เราก็จะได้สั่งสมประสบการณ์ทั้งดีและแย่ได้มากขึ้น...สุดท้ายเราก็จะมีข้อมูลเก็บไว้ใช้ "เดินทางในความคิดและจิตใจ" ของเรา ด้วยสิครับ...
ด้วยความที่เดินทางในแถบ CLMV บ่อยเสียเหลือเกิน เลยทำให้ผมเกิดความเคยชินกับการไม่ต้องขอ VISA
ทำให้บางครั้ง เกือบจะหน้าแตกบ่อยๆ เพราะกำหนดแผนเดินทางเสร็จแล้ว เกือบลืมเช็คว่า ประเทศที่จะไปนั้น ต้องขอ VISA ด้วยมั๊ยหนอ?
หลายท่านคงทราบอยู่แล้ว ว่าปัจจุบันคนไทยเราเดินทางไปได้ถึง 29 ประเทศ โดยไม่ต้องขอ VISA ครับ (หาใน Google ได้เลยครับ)
...
ช่วงสิบกว่าปีก่อน ผมเดินทางเป็นว่าเล่น แต่ส่วนมากเป็นการติดตามเจ้านายไปทำงาน และโชคดีที่เจ้านายยังเมตตา ให้ได้ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง...แต่กระนั้น ก็เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้เห็นโลกกว้างขึ้นอย่างยอดยิ่ง
ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น, ได้เรียนรู้อะไรที่ไม่เคยรู้ และได้ทำอะไรอีกหลายต่อหลายอย่างที่ไม่มีให้ทำในเมืองไทย
ที่สำคัญคือโอกาสในการเรียนรู้นิสัยใจคอของผู้คนต่างถิ่น, ได้ศึกษาวิธีคิด, ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่าง
ดังนั้น ใครที่มีโอกาสและศักยภาพ...จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเดินทางไปต่างบ้านต่างเมืองบ้าง...
แม้จะเป็นการไปกับ "ชะโงกทัวร์" ก็ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้ประสบการณ์ที่มีค่าแล้วล่ะครับ ^^
...
บางคนไม่ชอบเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง ด้วยเหตุผลคือ ขี้เกียจบ้าง, กลัวบ้าง หรือมีงบน้อยบ้าง
ว่าด้วยเรื่องงบน้อยก่อน...เพราะเดี๋ยวนี้การเดินทางใช้งบน้อยลง, มีตัวเลือกมากขึ้น...เรียกว่า "ใครๆ ก็บินได้" (สาบานว่า ไม่ได้แอบโฆษณาให้กับสายการบินใดเลยครับ ^^)
ส่วนเรื่องขี้เกียจ...ถ้าในแต่ละวันใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนของกรุงเทพฯ ได้ ผมว่าเราไม่น่าใช้คำตอบนี้ เป็นตัวปิดกั้นโอกาสในการไปเจอประสบการณ์ใหม่
เสียเวลาเดินทาง, ทนอุดอู้อยู่บนเครื่องไม่นาน...แต่รับรองว่า ล้อเครื่องบินแตะพื้นปั๊บ ความรู้สึกของเราจะเปลี่ยนไปทันที (ถ้าไม่ได้ไปทำงานนะครับ)
...
แต่สำหรับเรื่องกลัวนั้น...อันนี้มันอยู่ที่วิธีคิดครับ
ปัจจุบันข้อมูลในการไปท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ นั้น หาได้ง่ายเพียงแค่ขยับปลายนิ้วเท่านั้น
แปลว่า...เมื่อเรามีข้อมูลพอ, รู้ว่าจะไปทำอะไร, ที่ไหน และยังไง...ก็ไม่เห็นมีอะไรที่จะยากเกินไปนัก ต่อให้ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงก็เถอะ
ถ้ายังไม่มั่นใจและยังกลัวความไม่คุ้นชินมากอยู่...ก็ไปกับทัวร์ก่อนครับ
เที่ยวตอนยังมีแรงนี่ดีที่สุดแล้วครับ...ถ้ามัวแต่รอเก็บเงินเยอะๆ หรือมัวแต่กลัวนั่น นู่น นี่...รู้สึกตัวอีกที อาจจะได้ไปเที่ยวพร้อมไม้เท้าก็เป็นได้
...
ข้อที่ผมชอบอีกประการหนึ่ง สำหรับการไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ก็คือ การที่เราจะมีโอกาสได้กลายสภาพจาก Somebody ไปเป็น Nobody
เมื่อไม่ค่อยมีใครรู้จัก...ก็ทำให้เราเป็นตัวเองได้มากขึ้น, ลด ego ได้มากขึ้น และได้ทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้นด้วย
...เมื่อได้เดินทางมากขึ้น...เราก็จะได้สั่งสมประสบการณ์ทั้งดีและแย่ได้มากขึ้น...สุดท้ายเราก็จะมีข้อมูลเก็บไว้ใช้ "เดินทางในความคิดและจิตใจ" ของเรา ด้วยสิครับ...
Comments
Post a Comment