Post#3-356:
เที่ยงที่ผ่านมา ผมมีนัดทานกลางวันกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่เคยทำงานด้วยกัน...
แม้จะเจอกันได้เพียงแค่ช่วงสั้นๆ เพราะผมดันนัดพวกเค้ามาในวันครอบครัว...แต่ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เพราะก็คุยกันแต่เรื่องสัพเพเหระ...update ชีวิต ทั่วๆ ไป
ตอนหนึ่งของการสนทนา...เราคุยกันถึงเรื่องสังขาร ^^ (ไม่ต้องพยายามเดาอายุหรอกครับ...เลยหลักสี่มาแล้วทั้งนั้น)
เราคุยกันประมาณว่า เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น เราก็จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองมากขึ้น และเราจำเป็นต้องปรับตัวให้เท่าทันสังขาร...ไม่ใช่อยู่แบบปลงสังขาร
...
มานั่งทบทวนดูถึงสิ่งที่ผมคุยกับเพื่อนๆ ดูแล้ว...ผมคิดว่า แม้ว่าเราจะมิอาจเอาชนะกาลเวลาได้ แต่เราสามารถจะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับกระแสเวลาได้
หากรู้ว่า สังขารเริ่มโรยรา...เราก็จำต้องปรับเปลี่ยนพฤฒิกรรมการใช้ชีวิต ตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน, เรื่องการพักผ่อน ไปจนกระทั่งการออกกำลัง
จริงๆ ผมอาจจะสรุปแรงไปนิด...แต่ก็อยากจะสะกิดว่า ผู้คนส่วนใหญ่ (ที่มีผมเป็นหนึ่งในนั้น) ต่างก็มุ่งไปที่การเตรียมเงินให้พร้อมหลังเกษียณ แต่ไม่ได้คิดเตรียมร่างกายให้พร้อมไปด้วย
แปลว่า เรากำลังทำงานอย่างหนักโดยมุ่งแต่จะสร้างความมั่งคั่ง เพียงเพื่อจะมีเงินมากพอไปจ่ายค่าหมอและค่ายายามแก่เฒ่า
...ซึ่งผมมั่นใจว่า นั่นหาใช่บทสรุปที่เราทุกคนต้องการไม่!
...
ภาพฝันที่เราจะมีชีวิตหลังเกษียณ ย่อมเป็นภาพแห่งความสวยงาม ที่เรามีพร้อมทั้งเงิน, เวลา และร่างกายที่พร้อมพอควร
ไม่งั้นก็คงเศร้าน่าดู ที่มีเงิน, มีเวลา แต่สังขารไม่เอื้ออำนวย
คงเหมือนที่ผมเคยแชร์ไว้เมื่อนานมาแล้ว (Post#195) ว่า ทั้ง 3 สิ่งนี้ อาจเป็นการเล่นตลกกับชีวิตมนุษย์โดยแท้...เวลา, เงินตรา และสุขภาพ
วัยเด็ก...มีพลัง, มีเวลา, ไม่มีเงิน
วัยทำงาน...มีพลัง, มีเงิน, ไม่มีเวลา
วัยชรา...มีเงิน, มีเวลา, ไม่มีพลัง
...หรือเราอาจจะสรุปได้ว่า ตัวชี้วัดความเก่งของคนเรา อาจจะอยู่ที่ใครจะจัดการให้ชีวิตมีความสมดุลย์ระหว่าง 3 สิ่งนี้ ได้ดีกว่ากัน...มั๊ยหนอ?...
เที่ยงที่ผ่านมา ผมมีนัดทานกลางวันกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่เคยทำงานด้วยกัน...
แม้จะเจอกันได้เพียงแค่ช่วงสั้นๆ เพราะผมดันนัดพวกเค้ามาในวันครอบครัว...แต่ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เพราะก็คุยกันแต่เรื่องสัพเพเหระ...update ชีวิต ทั่วๆ ไป
ตอนหนึ่งของการสนทนา...เราคุยกันถึงเรื่องสังขาร ^^ (ไม่ต้องพยายามเดาอายุหรอกครับ...เลยหลักสี่มาแล้วทั้งนั้น)
เราคุยกันประมาณว่า เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น เราก็จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองมากขึ้น และเราจำเป็นต้องปรับตัวให้เท่าทันสังขาร...ไม่ใช่อยู่แบบปลงสังขาร
...
มานั่งทบทวนดูถึงสิ่งที่ผมคุยกับเพื่อนๆ ดูแล้ว...ผมคิดว่า แม้ว่าเราจะมิอาจเอาชนะกาลเวลาได้ แต่เราสามารถจะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับกระแสเวลาได้
หากรู้ว่า สังขารเริ่มโรยรา...เราก็จำต้องปรับเปลี่ยนพฤฒิกรรมการใช้ชีวิต ตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน, เรื่องการพักผ่อน ไปจนกระทั่งการออกกำลัง
จริงๆ ผมอาจจะสรุปแรงไปนิด...แต่ก็อยากจะสะกิดว่า ผู้คนส่วนใหญ่ (ที่มีผมเป็นหนึ่งในนั้น) ต่างก็มุ่งไปที่การเตรียมเงินให้พร้อมหลังเกษียณ แต่ไม่ได้คิดเตรียมร่างกายให้พร้อมไปด้วย
แปลว่า เรากำลังทำงานอย่างหนักโดยมุ่งแต่จะสร้างความมั่งคั่ง เพียงเพื่อจะมีเงินมากพอไปจ่ายค่าหมอและค่ายายามแก่เฒ่า
...ซึ่งผมมั่นใจว่า นั่นหาใช่บทสรุปที่เราทุกคนต้องการไม่!
...
ภาพฝันที่เราจะมีชีวิตหลังเกษียณ ย่อมเป็นภาพแห่งความสวยงาม ที่เรามีพร้อมทั้งเงิน, เวลา และร่างกายที่พร้อมพอควร
ไม่งั้นก็คงเศร้าน่าดู ที่มีเงิน, มีเวลา แต่สังขารไม่เอื้ออำนวย
คงเหมือนที่ผมเคยแชร์ไว้เมื่อนานมาแล้ว (Post#195) ว่า ทั้ง 3 สิ่งนี้ อาจเป็นการเล่นตลกกับชีวิตมนุษย์โดยแท้...เวลา, เงินตรา และสุขภาพ
วัยเด็ก...มีพลัง, มีเวลา, ไม่มีเงิน
วัยทำงาน...มีพลัง, มีเงิน, ไม่มีเวลา
วัยชรา...มีเงิน, มีเวลา, ไม่มีพลัง
...หรือเราอาจจะสรุปได้ว่า ตัวชี้วัดความเก่งของคนเรา อาจจะอยู่ที่ใครจะจัดการให้ชีวิตมีความสมดุลย์ระหว่าง 3 สิ่งนี้ ได้ดีกว่ากัน...มั๊ยหนอ?...
Comments
Post a Comment