Post#4-261:
หลายวันก่อน ผมต้องมารอเปลี่ยนเครื่องจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง...ซึ่งใช้เวลารอนานถึง 9 ชั่วโมง!
มันนานพอที่จะเอื้อให้ผมได้นั่งทบทวนและสะสางงานหลายๆ อย่างที่ค้างอยู่ โดยไม่มีใครติดต่อมา...เพราะเวลาต่างจากเมืองไทยนานพอควร
ระหว่างผมจัดระเบียบความคิดและ file ข้อมูลใน cloud, ผมก็ได้เจอข้อมูลอะไรบางอย่าง ที่หลงลืมไปนาน
...
บ่อยครั้ง เราก็เป็นเสียแบบนี้...คือนึกว่าเราจำนั่น นู่น นี่ ได้...
แต่จริงๆ แล้ว เราได้รับข้อมูลและเรื่องราวมากมายในแต่ละวัน...และมันมากพอที่จะทำให้ข้อมูลหรือเรื่องราวก่อนหน้า ถูกผลักเข้าไปสู่ลิ้นชักความทรงจำ
กองสุมอยู่ในนั้น...และรอให้เราเข้าไปรื้อค้นเพื่อจัดระเบียบ
บางครั้ง แม้ว่าเราจะเจอข้อมูล แต่เรากลับจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าเราต้องการจะใช้ข้อมูลนี้ เพื่อประโยชน์ในเรื่องใด
...
ถ้าลองทบทวนให้ดี...ชีวิตเราก็ต่างเจอเรื่องคล้ายๆ กันแบบนี้เยอะมากนะครับ
เราจึงต้องถามตัวเองว่า เราใช้เวลาในการจัดการเรื่องราวต่างๆ เหมาะสมและถูกลำดับความสำคัญก่อนหลังหรือไม่หนอ?
เรามัวแต่จะจัดการเรื่องด่วนต่างๆ ตรงหน้า...จนละเลยเรื่องสำคัญหลายๆ เรื่องที่ค้างอยู่หรือไม่?
เมื่อเวลาผ่านไปจากชั่วโมงเป็นวัน, จากวันเป็นสัปดาห์ และจากสัปดาห์เป็นเดือน...สุดท้ายเราก็จะจำไม่ได้ ว่างานที่เราทำค้างไว้น่ะ มันถึงไหนแล้ว
ลงท้ายด้วยการต้องเริ่มทำมันใหม่ตั้งแต่ต้น...ซึ่งแปลว่า เราเสียเวลาไปแล้วโดยเรียกคืนไม่ได้
ดังนั้น การทำ To Do List ของเรื่องที่ค้างอยู่ รวมถึงกำหนด Deadline List ของงานแต่ละเรื่องจึงสำคัญมาก
...หากเราไม่อาจวิ่งหรือเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จุดหมายปลายทางได้ ฉันใด...เราก็ไม่อาจทำงานไปเรื่อยๆ โดยไม่มีกำหนดสิ้นสุดของงาน ฉันนั้น...
#NoteToSelf:
- หนึ่งในวิธีวัดศักยภาพของตัวเราเองได้ดี ก็คือการทำงานให้สำเร็จได้ถูกต้อง, ครบถ้วน และตรงเวลา
- ความสามารถของเราไม่ได้วัดที่จำนวนงานที่ค้างอยู่ในมือ...หากแต่วัดกันที่เราทำงานได้สำเร็จผลได้กี่ชิ้น ต่างหาก
- งานกองเต็มโต๊ะไม่ได้แสดงว่า เรารับงานเยอะแล้วดูดี...ตรงกันข้าม มันอาจชี้ว่า เราขาดศักยภาพในการจัดการงานตรงหน้าอย่างได้ผล
Comments
Post a Comment