Skip to main content

Post#4-267: ไปตามความฝันของเรา

Post#4-267:
เมื่อเช้านี้ มีอดีตลูกน้องผมคนหนึ่ง ส่งเสียงตามสายมาปรึกษาว่า จะย้ายงานดีมั๊ย?

ประเด็นคือเธอก็ไม่ได้รู้สึกว่างานปัจจุบันมันน่าอึดอัดแต่อย่างใด แถมเจ้านายก็น่ารักกับเธอเสียเหลือเกิน

ส่วนงานใหม่ที่เข้ามา เป็นงานในฝันของเธอมานับสิบๆ ปี...จนเธอคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ได้ทำเสียแล้ว

แต่จู่ๆ โอกาสที่จะได้ทำงานในฝันที่ว่านี้ ก็มาเคาะประตูเรียก

...

อีกเรื่องหนึ่งที่เธอกังวลก็คือ เธอกลัวเพื่อนๆ และคนรอบข้างจะมองว่า เธอเปลี่ยนงานบ่อย...

จนเธอเกรงว่า จะตกเป็นขี้ปากว่า เธอเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อรึเปล่า?

ถ้าเราเป็นเธอ...จะตัดสินใจยังไงดีครับ?

...

คำแนะนำที่ผมมีให้เธอนั้น ง่ายมาก...โดยผมใช้คำถาม 2 ข้อ เพื่อให้เธอหาคำตอบด้วยตัวเอง

คำถามที่หนึ่ง...ชอบงานใหม่หรือชอบงานเก่ามากกว่ากัน?

คำถามที่สอง...ชาวบ้านที่เรากำลังกลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากน่ะ มีส่วนได้เสียอะไรกับเรามั๊ย?

เธอได้คำตอบเกือบจะในทันทีที่ผมถามคำถามจบ

...

ส่วนเรื่องเจ้านายที่แสนดีในปัจจุบัน...ผมแนะนำเธอให้ไปเรียนตามตรง ว่าเธอจะไปตามความฝันของตัวเอง ขอให้เจ้านายอวยพรให้ด้วย

แน่นอนว่า ก่อนจะไปตามความฝันที่ว่า...เธอก็คงต้องถ่ายงานให้เรียบร้อยเสียก่อน

แม้เจ้านายจะอยากรั้งตัวไว้เพียงใด...แต่หากเห็นว่าลูกน้องจะไปตามความฝันของตัวเอง...ผมก็มั่นใจว่า เจ้านายคงเข้าใจและอวยชัยให้พรแน่ๆ ครับ

...

ส่วนประเด็นที่เธอมัวกังวลว่าตัวเองจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน...ผมก็แนะนำไปว่า อย่าไปใส่ใจกับความเห็นของชาวบ้านให้มากนักเลย

แม้ว่าการเปลี่ยนงานบ่อย จะไม่ใช่เรื่องน่าชื่นชม...แต่ข้อเท็จจริงที่ทำให้เราตัดสินใจเปลี่ยนงานต่างหาก ที่เป็นประเด็นสำคัญ

เราเปลี่ยนงานเพราะเราเป็นพวก "ขี้แพ้" หรือเปลี่ยนงานเพราะโอกาสดีๆ เข้ามา...ก็ล้วนเป็นเรื่องของเรา 

ไม่ใช่เรื่องของชาวบ้าน!

...ใครเตือนเราด้วยความหวังดี...เราก็ฟัง คิด แล้วก็ขอบคุณ

...ส่วนใครที่เม้าส์มอย หรือรอซ้ำตอนเราพลาด...เราจะให้ความสำคัญกับคนพวกนั้น ไปเพื่ออะไร?

...

ใครก็ตาม...ถ้าความฝันมาเคาะประตูเรียกแล้ว ก็จงอย่าลังเล...

และที่สำคัญ เมื่อได้โอกาสแล้ว จงอย่าทำให้เสียของ ^^

...โอกาสไม่ได้มาหาเราบ่อยๆ นะเออ...

#NoteToSelf: 

  • ชีวิตหนึ่งคุ้มแล้ว หากจะได้มีโอกาสได้ทำตามความฝัน
  • อย่าสนใจมากนัก ว่าใครจะมองเรายังไง...สำคัญที่ว่า เรามองตัวเองยังไง มากกว่า
  • โอกาสไม่ได้มาบ่อยๆ...ได้มาแล้ว ก็อย่าทำให้เสียของ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...