Post#4-256:
เคยสังเกตมั๊ยครับ ว่าเช้าวันไหนที่เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่น...วันนั้นทั้งวัน ก็ดูเหมือนเราจะทำอะไรๆ ด้วยความราบรื่นเสียเป็นส่วนใหญ่
ต่างจากเช้าวันที่เราตื่นมาพร้อมกับความเซื่องซึมหรือขุ่นมัว...ก็ดูเหมือนว่า วันนั้นทั้งวัน อะไรๆ ก็ไม่ค่อยจะเป็นใจกับเราสักเท่าไหร่
แล้วทำยังไงเราถึงจะตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นได้บ่อยๆ กันหนอ?
ลองคิดดูก่อนมั๊ยครับ? ผมให้เวลา 5 นาที พอมั๊ยครับ?
...
ผมเองก็ไม่ทราบคำตอบที่นำไปใช้อ้างอิงทางวิชาการได้หรอกนะครับ...แต่วิธีที่ผมใช้บ่อยๆ ก็คือ การปรับวิธีคิดก่อนเข้านอน
หลายๆ คนพกเอาความกังวล, ความโกรธ รวมไปถึงอารมณ์มิจฉาทั้งหลาย เข้านอนด้วย
แปลว่า กว่าจะหลับลงสมองก็คิดวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องไม่ดีไม่งาม ก็เลยทำให้เรานอนกระสับกระส่าย พลิกซ้ายก็โกรธ พลิกขวาก็เศร้า...ลงท้ายกว่าจะหลับได้ ก็ค่อนคืน
ถ้าเป็นแบบนี้...จะตื่นขึ้นมาด้วยความสดใสได้ยังไง?
...
อ๊ะๆ...ผมไม่ได้บอกว่า เราต้องตัดมิจฉาอารมณ์ออกไปจากชีวิตเลยนะครับ...เพราะมันเป็นไปแทบไม่ได้เลยสำหรับมนุษย์กิเลสหนาทั่วไป
โกรธได้ครับ, เศร้าได้ครับ และผิดหวังได้ครับ...แต่ต้องรู้ว่าตอนไหนต้อง "วาง" มิจฉาอารมณ์ไว้ชั่วครู่
อยากจะโกรธ, อยากจะเหงา หรืออยากจะเศร้า...เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยทำต่อก็ได้ ถ้ายังอยากจะทำให้ใจตัวเองมัวขุ่นต่อไป
...
เวลาเข้านอนจึงเป็นเวลาที่เราต้องปรับใจให้เข้าสู่ "Peaceful Mode"
ไม่ใช่การหนีปัญหานะครับ แต่มันเป็นแค่การวางปัญหาไว้ชั่วครู่ชั่วยาม...เพื่อพักกาย, พักใจ และพักสมองให้เต็มที่
...เพื่อที่วันรุ่งพรุ่งนี้ เราจะได้เต็มเปี่ยมด้วยพลังกาย, พลังสมอง และพลังใจ ไปรบรากับปัญหาต่อไปยังไงล่ะครับ...
#NoteToSelf:
- สงครามยังมีพักรบ...แล้วเราจะแบกความทุกข์ไว้ตลอดเวลาเพื่ออะไร?
- คนมีความสุข ไม่ใช่ว่าเค้าไม่เคยทุกข์...แต่เค้ารู้ว่า ตอนไหนควรทุกข์ และตอนไหนควรวาง ต่างหาก
- เมื่อเรารู้ว่า ไม่มีใครจะสุขอยู่ตลอดเวลาได้...ดังนั้น เราต้องรู้สิว่า การปล่อยให้ตัวเองทุกข์อยู่ตลอดเวลา จะเรียกว่าเรามีปัญญาหรือไม่?
Comments
Post a Comment