Skip to main content

Post#4-252: คำตอบไหนที่ใจเราต้องการ?

Post#4-252:
คำถามต่อไปนี้...อยากให้อ่านแล้ว ลองถามตัวเองด้วยความสัตย์จริงนะครับ

และหากเลือกคำตอบแล้ว...แต่อธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร ผมถือว่าโมฆะนะครับ

ระหว่างเงินตรากับความรัก...อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา?

เอ้า...เริ่มเลยครับ

...

ถ้ากล้าจะยอมรับอย่างตรงไปตรงมา...หลายคนมักจะตอบว่า เงินตรา...

แต่หลายคนก็มักบอกว่า เงินตราก็ใช้ซื้อความรัก ไม่ได้นะ?

เพราะหากใช้ปัญญาและความทุ่มเทให้เป็นประโยชน์...เราก็อาจสร้างเงินตราได้ไม่ยากจนเกินไปนัก

แต่แม้จะใช้เวลาทั้งชีวิต...บางที เราก็ไม่อาจใช้มันหา ความรัก ได้

อ้าว...งั้นแปลว่า คำตอบคือ ความรัก อย่างนั้นรึเปล่า?

...

ไม่แน่ครับ...

เพราะคำตอบที่ถูกต้องสำหรับใครหลายๆ คน...อาจจะไม่ใช่ทั้งเงินตราและความรัก ก็เป็นได้

บางคนก็ตอบว่า เป็นส่วนผสมระหว่างทั้งสองเรื่อง บวกกับเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งผมเองก็บอกไม่ได้ว่า คำตอบของแต่ละคนนั้นถูกหรือไม่?

ผมบอกได้ก็แต่เพียงว่า...

ไม่ว่าเราจะเลือกอยู่อย่างผู้บูชาเงินตรา, ไม่ว่าเราจะกำลังเดินทางตามหารักแท้ หรือไม่ว่าจะเป็นคำตอบอื่นใด ก็ตาม...

คำตอบข้อนั้น มันยังทำให้เรายังแน่ใจอยู่ใช่มั้ย ว่าการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เพื่อเป้าหมายที่ว่า

...มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่เสียใจ ยามที่ลมหายใจสุดท้ายของเรา ออกจากร่าง?...

#NoteToSelf: 

  • บ่อยครั้งเราก็วิ่งตามเป้าหมายที่เราไม่ได้ต้องการอยู่จริงๆ
  • การไม่มีเป้าหมายเป็นปัญหาใหญ่ของชีวิต ก็จริงอยู่...แต่การเข้าใจผิดว่าตัวเองมีเป้าหมายที่ "ใช่" อาจเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า
  • ถ้าเราไม่รู้สึกสนุกกับเป้าหมายที่ตั้งไว้...ก็คงถึงเวลาทบทวนตัวเองแล้ว
  • ไม่รู้สึกสนุก กับรู้สึกขี้เกียจที่จะทำน่ะ มันต่างกัน...
  • แบบแรก แม้จะเหนื่อยยากแต่ใจยังไม่ท้อที่จะทำ
  • ส่วนแบบหลังอยากให้สำเร็จ แต่ไม่อยากเหนื่อยที่จะลงมือ
  • แบบไหน "ถูก"...เรารู้ และคนทั้งโลกก็รู้

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...