Post: 5-115:
ผมเข้าใจเอาเองครับ ว่าคงไม่มีใครรังเกียจช่วงเวลาเฉลิมฉลองปีใหม่...เอาจริงๆ น่าจะบอกว่า มีแต่คนตั้งหน้าตั้งตารอ เสียมากกว่า
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คนเราเริ่มต้นนับปีปฏิทินในแบบปัจจุบัน...ได้แต่คาดเดาเอาว่า คงมาหลายพันปีมาแล้วแน่ๆ
แล้วผมก็สงสัย ว่าใครกันหนอเป็นคนแรกที่ริเริ่มให้มีการฉลองปีใหม่?
...
หลังจาก ลองพยายาม search หาข้อมูลอยู่นาน ก็ไม่ปรากฏหลักฐานชัดแจ้ง ว่าใครเป็นคนแรกที่ยินดีที่ปีใหม่มาถึง
ถ้างั้นก็คงต้องอนุมานเอาเองครับ ว่าผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็รอคอยปีใหม่...แต่อาจจะด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป
หนึ่งในเหตุผลเหล่านั้น ก็น่าจะมีเรื่องของ การอยากเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ...รวมอยู่ด้วย กระมังครับ?
...
เพราะเราต่างก็มีเรื่องเศร้าใจ, ไม่ชอบใจ, ไม่พอใจ, หงุดหงิดใจ รวมไปถึงรำคาญใจ สะสมยาวนานกันมาทั้งปี...
ดังนั้น เมื่อรู้ว่าปีใหม่กำลังจะมาถึง เราจึงถือเป็นโอกาสดีๆ ที่จะทิ้งความรู้สึกไม่ดีไปเสีย กระมังครับ?
ก็ดูเหมือนวิธีคิดแบบนี้จะเข้าท่าและเป็นที่นิยมนะครับ...
แต่...แต่...แต่
...
แต่จริงๆ แล้ว ผมว่ามันไม่จำเป็นเลยครับ ที่เราจะต้องมารอให้ถึงปีใหม่...แล้วค่อยจะมาขุดลอกความทรงจำที่ไม่ดีออกจากสมองและหัวใจ
เพราะยิ่งเก็บความทรงจำหรือความรู้สึกไม่ดีไว้นานๆ...ย่อมเป็นโทษ มากกว่าจะเป็นประโยชน์ แน่ๆ
ที่ผมว่าไม่ควรเก็บไว้น่ะ ไม่ใช่ให้ทำเป็นลืมนะครับ...เพราะเรื่องบางเรื่อง ยิ่งพยายามจะลืม จะยิ่งกลับจำฝังใจ
แต่การไม่เก็บน่ะ คือหลังจากเสียใจกับเรื่องไม่ดีแล้ว ก็ควรพิจารณาจิตของเราให้เข้าใจมัน...ว่าทุกข์ไปก็เท่านั้น จมจ่อมไปก็เท่านั้น
ยิ่งเข้าใจได้เร็วเท่าไหร่ เราก็วางอารมณ์ที่มีต่อความทรงจำเลวๆ และความรู้สึกแย่ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น
วางอารมณ์นั้น ก็หมายความว่า แม้ต่อไปจะแว่บไปคิดถึงมัน ก็จะรู้เท่าทัน...และไม่เอาอารมณ์ไปจับไปปรุงแต่งให้จิตนั้นเศร้าหมองเพราะมันอีก
...ดังนั้น ผมถึงบอกว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้ปีใหม่มาถึง แล้วค่อยขุดลอกอะไรที่ไม่ดีออกจากใจ ไงล่ะครับ!...
NoteToSelf:
- เราไม่อาจห้ามใจไม่ให้ทุกข์...แต่เราสามารถ “สอนใจ” ให้ทุกข์ให้เป็นได้
- เราไม่จำเป็นต้องลืมความทุกข์...แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้ที่จะ “ก้าวข้ามมัน”
- ยิ่งเข้าใจมัน ยิ่งวางได้เร็ว...และยิ่งวางได้เร็ว ก็จะมีเวลาแห่งความสุขยาวนานขึ้น
- เพราะแค่ “ไม่ทุกข์” นั่นแหละคือ “ความสุข” แล้ว!
Comments
Post a Comment