Post#5-104:
บ่ายที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้คุยกับทีมงานเล็กน้อย...ระหว่างที่รอระบบกำลังประมวลผลข้อมูล
ตอนหนึ่งของการสนทนา เราคุยกันถึงเรื่องอุปสรรคในการทำงาน...ซึ่งผมก็ได้ข้อสรุปไม่ต่างจากที่เคยได้ยินได้ฟังมาจากองค์กรอื่นๆ เท่าไรนัก
นั่นก็คือ ลูกน้องทั้งหลายไม่เคยกลัวงาน “หนักกาย”...แต่กลัวงาน “หนักใจ” เสียมากกว่า
ใครเคยเป็นลูกน้อง ก็จะรู้ดี ว่าปัญหาชวนหนักใจนั้น มีเรื่องอะไรบ้าง...ยกตัวอย่างก็เช่น มีนายหลายคน, เปลี่ยนคำสั่งบ่อย, นโยบายรายวัน, สั่งงานปุ๊บ จะเอาปั๊บ, ฯลฯ
...
แต่ว่าก็ว่าเถิดครับ...ก่อนจะรู้สึกหนักอกหนักใจ ก็ลองมองในมุมของเจ้านายดูเสียหน่อย...บ่อยครั้ง ที่เจ้านายเองก็โดนกดดันจากระดับที่เหนือขึ้นไปอีกก็มี
ดังนั้น ถ้ามันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไปนัก ก็ช่วยร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเฉพาะหน้าให้เสร็จเสียก่อน...แล้วค่อยมาเปิดใจคุยกันหลังพายุพ้นผ่าน
โดยมากแล้ว ถ้าได้เคลียร์กันหลังเกิดความสงสัยในความวุ่นวายที่เกิดขึ้น...ทั้งเจ้านายและลูกน้องก็จะเข้าใจกันดีขึ้นครับ
...
คำแนะนำจากคนที่เป็นทั้งลูกน้องและเจ้านาย อย่างผม...ก็คือ จงอย่าคิดเองเออเอง
เพราะบ่อยครั้งและมากหน...การคิดเองเออเองนี่ล่ะ ที่ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไปเสียทุกที
...ทำงาน “เหนื่อยกาย” ก็มากพอแล้ว ดังนั้น อย่ามัวแต่ต่างฝ่ายต่างทำให้อีกฝ่าย ต้อง “เหนื่อยใจ” อีกเลยครับ...
#NoteToSelf:
- ไม่มีลูกน้อง เราย่อมมิอาจเป็นเจ้านาย...และไม่มีเจ้านาย เราย่อมขาดคนนำ...ต่างต้องทำงานด้วยกันเป็น “คู่กัน” และ “คู่กรรม”
- อย่าปล่อยให้มีเรื่องค้างคาใจระหว่างกัน...บางครั้ง การ “หยุด” เพื่อให้ “ไปต่อ” เป็นเรื่องที่มิอาจละเลย
- “คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก”...ยังไงก็ยังเป็นจริงเสมอ
Comments
Post a Comment