Post#5-103:
ในการทำงานในแต่ละวันนั้น เราก็ย่อมจะเจอกับผู้คนมากมายร้อยแปด...ซึ่งแต่ละคนก็ย่อมมีบุคลิกและจริตที่แตกต่างกันไป
แน่นอนว่า เราก็จะเจอทั้งคนที่ chemistry ตรงกับเรา และเจอคนที่ chemistry ต่างกับเราจนสุดขั้ว
การที่ใครก็ตาม มี chemistry ตรงกับเรานั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า ใครคนนั้นจะเหมือนเราทุกอย่าง
ตรงกันข้ามครับ...ใครคนที่ว่า อาจจะไม่เหมือนเราเลยสักอย่างก็เป็นได้ แต่ความไม่เหมือนกันของเราและเค้า กลับเติมเต็มกันได้พอดิบพอดี
...
เอาจริงๆ จากประสบการณ์ของผม...คนที่มักจะมี chemistry ที่เข้ากับเราไม่ค่อยได้น่ะ...กลับกลายเป็นคนที่มี “ความเหมือน” เรา มากๆ เสียเป็นส่วนใหญ่
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นน่ะหรือครับ?
ข้อนี้ผมก็ตอบแบบฟันธงไม่ได้ เพราะไม่ใช่ Psychologist...
แต่ก็พอจะวิเคราะห์ได้ว่า ก็เพราะคนที่เหมือนเรามากๆ นั้น มักจะมีความชอบและไม่ชอบที่คล้ายกันมาก
แปลว่า เวลาที่เห็นดีเห็นงามตรงกัน...ก็ไม่มีใครค้านใคร
แต่เมื่อความเห็นไม่ตรงกันเมื่อไหร่...ก็จะกลายเป็นว่า ต่างคนต่างก็ไม่ยอมลงให้กัน เพราะวิธีคิดและวิธีตัดสินใจมันเหมือนกันเกินไป นั่นเอง
...
นี่เอง...ที่การที่เรามีคนที่คิดเหมือนเรามากๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
นี่เอง...ที่การที่เราควรมีคนที่แตกต่างกันบ้างและเหมือนกันบ้าง มารวมอยู่ด้วยกันในองค์กร
นี่เอง...ที่คนที่จะเป็นผู้นำองค์กรได้ จำเป็นจะต้อง “ผสมส่วนเหมือน และผสานส่วนต่าง” ของคนในองค์กร ได้อย่างเหมาะสมและลงตัว
...และนี่เอง ที่เราจำเป็นจะต้องเรียนรู้และยอมรับให้ได้ ว่า “แตกต่าง” กับ “แตกแยก” เป็นคนละเรื่องกัน...
#NoteToSelf:
- วิธีคิดไม่เหมือนกัน ใช่ว่าจะนำไปสู่ข้อสรุปที่ตรงกันไม่ได้...และวิธีคิดเหมือนกัน ใช่ว่าจะได้ข้อสรุปที่ตรงกัน เสมอไป
- “เห็นต่าง” ไม่ใช่เรื่องแย่...”ต่างเห็น” มักนำไปสู่เรื่องแย่
- อย่าฝืนไปต่อ เมื่อเจอทางตันของความแตกต่างกันด้านวิธีคิด...หนทางจะเปิดเสมอ เมื่อเปิดใจมองหาทางใหม่ๆ
Comments
Post a Comment