Post#5-090:
ผมไม่เคยหนักใจเลย เวลาที่ต้องทำแผนธุรกิจ...แต่เมื่อต้องมาช่วยภรรยาและลูกสาวเลือกชุดใส่ไปงาน ผมกลับไม่ค่อยมี comment ดีๆ ^^
นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมเหลือเกินครับ...ว่าคนเราต่างมีเรื่องที่ถนัดและไม่ถนัด
เรื่องที่เราถนัดอาจจะช่วยอะไรเราไม่ได้เลยในสถานการณ์หนึ่ง เช่นเดียวกับที่บางเรื่องที่เราไม่ถนัดเลย ก็อาจจะไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเรา เมื่อเราทำเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้ความถนัดเรื่องนั้น
แปลว่า เราควรจะมีความถนัดหลายๆ เรื่อง จึงจะดีใช่มั๊ย?
...
ถ้าถามผม...ผมตอบโดยไม่ลังเลเลยครับ ว่า “ใช่”...แต่
แต่อะไรน่ะหรือครับ?
แต่ขอเพิ่มว่า...ใช่ แต่ควรจะมีเรื่องที่ถนัดเป็นพิเศษเหนือค่าเฉลี่ยมากๆ ติดตัวเราด้วย อย่างน้อย 1 - 2 อย่าง
ไม่ใช่ถนัดทุกเรื่อง หรือทำได้หลายเรื่อง แต่ไม่เก่งสุดๆ สักเรื่อง...เพราะแบบนี้ เราจะเป็นได้แค่ “เป็ด”
...
การที่เราถนัดหลายอย่าง ทำได้หลายเรื่อง อาจทำให้เรามีโอกาสได้คัดตัวเข้าร่วมในหลายๆ ทีม ก็จริง...แต่เรา “มักจะ” ไม่ได้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง
หัวหน้าทีมมักจะมองเราเป็น “ตัวสำรองหมายเลขหนึ่ง” อยู่เสมอ เพราะจับเราไปทำหน้าที่อะไรก็ได้
ต่อเมื่อหาคนที่ถนัดเฉพาะด้าน หรือเก่งเฉพาะเรื่อง มาได้...เราก็จะตกไปเป็น “ตัวสำรองหมายเลขหนึ่ง” อีกครั้ง, อีกครั้ง และอีกครั้ง...วนไปอยู่อย่างนี้
...
และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่เราจำต้องฝึกฝนตัวเราเอง ให้มีเรื่องที่เก่งสุดๆ เฉพาะด้าน...เอาให้เก่งเหนือกว่าค่าเฉลี่ยจนกลายเป็น “กระบี่มือหนึ่ง” ให้ได้
เมื่อมีความถนัดสุดยอดติดตัวแล้ว สักอย่างหรือสองอย่าง...จากนั้น จึงค่อยท้าทายตัวเองให้ถนัดเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ
ระหว่างไปฝึกฝนเรื่องใหม่ๆ ก็ห้ามละเลย “จุดแข็งเดิม” ของตัวเอง โดยเด็ดขาด...อย่าตายใจหรือลำพองใจ ว่าตัวกูนี้ เก่งที่สุดหาใครเทียมได้แล้ว
เพราะหากเราลำพองใจแบบนี้ ที่สุดเราก็จะสูญเสีย “จุดแข็ง” ไปในที่สุด
...หากจุดแข็งเดิมก็รักษาไว้ไม่ได้, จุดแข็งใหม่ก็ยังไม่มี...คราวนี้ล่ะ คงได้เป็นแค่ตัวสำรองตลอดกาล...
#NoteToSelf:
- ถนัดหลายเรื่องได้...แต่ต้องเก่งสุดๆ ในบางเรื่อง
- ภูมิใจในตัวเองได้...แต่อย่าให้กลายเป็นอหังการ์ / จงจำไว้ให้จงดี ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า”
- หากไม่ถนัดเรื่องไหนเลย หรือไม่เก่งเรื่องไหนเลย...ถามตัวเองตรงๆ ว่าเราไร้ “พรสวรรค์” หรือไร้ “พรแสวง” กันแน่
Comments
Post a Comment