Skip to main content

Post#5-124: รอยยิ้มของลูกค้า

Post#5-124:
วันนี้ ผมตื่นแต่มืด คือ ตี 3 กว่าๆ เพราะมีภารกิจต้องร่วมคณะไปดูแลลูกค้า แบบ One Day Trip

ใครที่ต้องไป Trip ลักษณะนี้ จะทราบดี ว่ามันมีเรื่องให้ต้องห่วงต้องดูแลไปตลอดทาง เลยก็ว่าได้

โชคดีที่ผมได้ทีมงานที่ชำนาญงานพอควร มาช่วย...เลยทำให้ Trip นี้ ไม่หนักหนาเลย สำหรับผม

ทีมงานทุกคนทำงานอย่างตั้งใจ โดยมีเป้าหมายสำคัญ ก็คือ ทำอย่างไรให้ลูกค้าทุกคนได้รับความพึงพอใจ?

...

แน่นอนว่า ความท้าทาย ก็คือ เราจะดูแลลูกค้าทุกคนให้ได้รับความพึงพอใจ ได้ยังไงหนอ?

สมมติว่า มีลูกค้า 100 ท่าน...ถ้าเราทำให้ 99 คน มีความสุขได้ เราก็จะได้คะแนนถึง 99% 

ซึ่งถ้าเป็นคะแนนสอบ...ได้เท่านี้ เราก็คงจะพอใจสุดๆ

แต่นี่คือการดูแลลูกค้า...แปลว่า แม้จะมีเพียง 1 ท่าน ที่ไม่มีความสุข...ก็ต้องถือว่า Trip นี้ จบลงแบบล้มเหลว

เพราะ 1% ที่หายไปของเรานั้น...เท่ากับ 100% ของลูกค้าท่านที่ไม่พอใจ นั่นเอง!

...

งานบริการลูกค้า จึงเป็นหนึ่งในงานสำคัญ ที่ท้าทายกำลังกายและกำลังใจของทีมงาน เป็นอย่างมาก

เรียกว่า ถ้าไม่มีพื้นฐานจิตใจและนิสัยที่รักการบริการแล้วล่ะก็...ก็ต้องฝืนใจตัวเองและปั้นหน้ากันเหนื่อยเลยทีเดียว

เพราะทำดีก็แค่เสมอตัว...แต่การพลาดเรื่องเล็กๆ บางเรื่อง ก็อาจทำให้การเตรียมการทั้งหลาย กลายเป็นไร้ค่า

และไม่ว่าเราจะเตรียมการดีเพียงใด...ทีมงานทุกคน ก็ต้องทำใจรับกับการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

...

ดังนั้น ใครทำงานในสายบริการ ก็ต้องหมั่นดูแลขวัญและกำลังใจของทีมงานให้ดีๆ ครับ

เพราะเมื่อทีมงานมีความสุข...พวกเค้าย่อมมีแรงใจที่จะดูแลให้ลูกค้ามีความสุขด้วยเช่นกัน

มันเป็นตรรกะง่ายๆ ครับ...คิดตามดู ก็จะเห็นได้เอง ว่า

...เราจะสร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้าได้ยังไง...ถ้าตัวเรายังไม่มีรอยยิ้ม?...

#NoteToSelf: 

  • เต็มใจให้บริการกับจำใจให้บริการนั้น ต่างกันในระดับที่ผู้รับสัมผัสได้...เพราะหากใจไม่ยิ้ม...รอยยิ้มบนหน้าก็จะฝืนๆ
  • เราต้องดูแลทีมงานให้ดี...เพื่อให้ทีมงานไปดูแลลูกค้าให้ดียิ่งกว่า
  • รอยยิ้มของลูกค้า...จึงต้องเริ่มต้นจากรอยยิ้มของทีมงาน นั่นเอง

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...