Post#5-136:
วันนี้ ผมมีภารกิจพาลูกค้าที่น่ารักกลุ่มเล็กๆ และทีมงาน มาสัมผัสประสบการณ์แบบ Exclusive กับ Celeb ท่านหนึ่ง
มื้อกลางวัน เราก็พาลูกค้าไปทานข้าวพร้อมชมวิว ที่ร้านดังแห่งเมืองพัทยา...
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว เราก็พาลูกค้ามุ่งหน้าต่อไปยัง High-light ของ Trip
ซึ่งเราเลือกให้ลูกค้าได้มีความสุขกับ Party บนเรือยอร์ชขนาดเล็ก...ได้โต้คลื่น-กินลม-ชมวิว-จิบไวน์ อยู่กลางทะเลแบบชิลด์ๆ
...
บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูกค้าของเรานั้น มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ กับการได้ใกล้ชิดกับ Celeb คนโปรด
บ้างก็ว่ายน้ำ, บ้างก็นั่งคุยหย่อนใจ, บ้างก็ถ่ายรูป, บ้างก็ทานบาร์บีคิว และบ้างก็นั่งเรือเล่น, ฯลฯ
มันเป็น Slow Life ที่หลายๆ คนใฝ่ฝันถึง...
และนั่นทำให้ผมและทีมงานยิ้มกว้าง...เพราะดีใจที่ลูกค้ามีความสุข จนทำเอาเราเปี่ยมสุขไปด้วย
...
นี่เป็นอีกหนึ่ง Trip ที่ผมชอบ...เพราะทำให้ผมได้ฟังเสียงแห่งความต้องการของลูกค้าแบบใกล้ชิด
เพราะไม่ว่าจะทำธุรกิจใดก็ตาม...หากเราไม่ใส่ใจจะฟังเสียงลูกค้า เราก็ไม่อาจจะยืนอยู่ได้...
แปลว่า เรามิอาจค้าขายโดยมองแค่ผลกำไรระยะสั้นได้...หากแต่ต้องมองไปถึงอนาคตข้างหน้าด้วย ว่าเราจะเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้หรือไม่?
...และต้องจำไว้ว่า เสียงแห่งลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเสียงบ่นหรือเสียงชม
...ก็ล้วนต้องนับเป็น “เสียงสวรรค์” ที่สะท้อนให้เราเห็นภาพตัวเองได้ชัดขึ้น...
#NoteToSelf:
- แค่ “ได้ยิน” เสียงของลูกค้านั้น ยังไม่พอ...หากแต่ต้องตั้งใจและใส่ใจที่จะ “ฟัง” ด้วย
- การที่ลูกค้าเงียบ...ไม่ได้แปลว่า “ชอบ” หรือ “พอใจ” / และการที่ลูกค้าต่อว่า...ก็ไม่ได้แปลว่า “เกลียด” / ต้องวิเคราะห์ให้ดี ถึงเจตนาที่แท้
- มันไม่ผิด ถ้าจะคิดว่า “ลูกค้า” ก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป...แต่มันย่อมไม่ถูก ถ้าไม่เคยนำเสียงของลูกค้า มาย้อนดูตัวเราเอง
Comments
Post a Comment