Post#5-135:
หลังเที่ยงเล็กน้อย ผมได้หารือกับเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่ง...ถึงความไม่คล่องตัวบางประการในการทำงาน ที่เธอกำลังเผชิญอยู่
ด้วยความที่ผมมีอาวุโสกว่า และมีโอกาสเข้าถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ง่ายกว่า...ผมจึงอาสาเข้าช่วยเหลือเธออย่างเต็มใจ
...แม้ว่างานในความรับผิดชอบของผมจะมีมากมายจนล้นมืออยู่แล้ว ก็ตาม
...
เปล่าครับ...ผมไม่ได้ต้องการจะทำเท่ หรืออยากจะเป็น Hero แต่อย่างใด
แต่การที่อาสาเข้าช่วยนั้น เพราะทราบดีว่า หากปล่อยให้เธอเผชิญสถานการณ์แบบนี้ไปเรื่อยๆ...ผมก็อาจจะสูญเสียเพื่อนร่วมงานเก่งๆ แบบเธอไป ก็เป็นได้
อย่าลืมนะครับ ว่าการมี “คนเก่ง” อยู่ในองค์กร...ก็คือการเปิดโอกาสให้เรา “เก่ง” ขึ้น เช่นกัน
...
ผมชื่นชมคนเก่ง...โดยเฉพาะคนเก่งที่ตั้งใจทำงานอย่างทุ่มเท และเห็นแก่ความสำเร็จขององค์กร เป็นสำคัญ
ผู้ที่มีคุณลักษณะเช่นนี้ล่ะครับ คือผู้ที่เราสมควรจะรักษาไว้คู่องค์กร...เป็น Super Workforce ที่เราควรสนับสนุน
และเพื่อนร่วมงานของผมท่านนี้ ก็เข้าข่ายเป็นหนึ่งใน Super Workforce ที่ว่า
...
อย่างที่ผมเคยแชร์ไว้หลายครั้งครับ...ว่าองค์กรนั้น ถือเป็นครอบครัวประเภทหนึ่ง
ดังนั้น ทุกๆ คนที่อยู่ร่วมองค์กรเดียวกับเรา จึงเปรียบเสมือน “คนในครอบครัว” เดียวกัน
หากเราไม่อาจปล่อยให้คนในครอบครัว ต้องตกระกำลำบาก ฉันใด...เรายิ่งไม่สมควรปล่อยให้เพื่อนร่วมงาน ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ฉันนั้น
ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเราอยู่ในสถานะที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือได้ด้วยแล้ว...การดูดายโดยไม่แยแส ถือว่าเข้าข่าย “ใจดำ” กับคนในครอบครัวอยู่ไม่น้อย
...
ดังนั้น การช่วยให้เธอ “อยู่ได้”...จึงเกี่ยวพันกับการที่ทำให้งานของผม “แข็งแรง” ด้วยโดยปริยาย
แปลว่า หากเราช่วยเหลือเกื้อกูลกันในองค์กรได้
...องค์กรของเราก็จะน่าอยู่...และเข้าใกล้ความหมายของคำว่า “ครอบครัว” มากขึ้นอีกนิด...จริงมั๊ยครับ?...
#NoteToSelf:
- การสนับสนุนให้มี “คนเก่ง” อยู่ในองค์กรเยอะๆ...ถือเป็นการเสริมให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน
- บ่อยครั้ง ที่การช่วยเหลือคนในองค์กรให้ “อยู่ได้”...อาจส่งผลให้ตัวเราเอง “อยู่ได้” เช่นเดียวกัน
- ทุกคนในองค์กร ล้วนมีความสำคัญ...ปล่อยให้คนหนึ่ง “ล้มหาย” เราอาจเป็นคนต่อไปที่ “ตายจาก” ก็เป็นได้
- อย่าดูดายเห็นคนในองค์กรโบกมือลาจากไปทีละคนสองคน...ก็เราเป็น “ครอบครัวเดียวกัน”...หรือมิใช่?
Comments
Post a Comment