Post#5-179:
เมื่อก่อนเที่ยงนี้เอง...ผม “แว่บ” ไปงานแต่งงานของอดีตเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่งมาครับ ^^
ที่บอกว่า “แว่บ”...ก็เพราะโผล่หน้าไปแป๊บเดียวจริงๆ เพียงเพื่อให้ได้ถ่ายรูปกับคู่บ่าว-สาว แล้วก็กลับ
เอาจริงๆ ก็แค่อยากรีบกลับมาอยู่กับภรรยา...ก็เพราะวันนี้ก็เป็น Wedding Anniverary ของผม เช่นกัน :)
...
ทุกครั้งที่ไปงานแต่งงาน...ผมก็มักระลึกถึงงานของตัวเอง...นึกไปก็ขำไป เพราะไม่เคยนึกไม่เคยฝัน ว่าคู่ของผมจะลงเอยกันได้
ใครที่รู้จักผมเป็นการส่วนตัว ก็คงทราบดี...ว่าต่อให้เป็นนักเขียนนิยาย ก็คงไม่นึกพล๊อตเรื่องแบบคู่ของผม ออกมา
แต่จะว่าไป ผมก็มั่นใจว่า ความรักของแต่ละคู่ ก็น่าจะมีเรื่องราวที่น่าติดตาม ไม่แพ้กันล่ะครับ...ซึ่งบางเรื่อง เก็บไว้คุยกันสองคน คงจะซึ้งกว่า ❤️
...
ผ่านมาครบ 14 ปี...ทั้งสุข, เศร้า, เหงา หรือทุกข์...รับรองว่าคู่ผมน่ะ ผ่านมาหมดแล้ว
ดังนั้น ก็พอจะหาญกล้าสรุปให้คู่แต่งงานใหม่ๆ ฟังได้บ้าง...ว่าอย่าไปคาดหวังว่าคู่ของเราจะไม่เปลี่ยนแปลง
ยังไงคนเราก็ย่อมจะเปลี่ยนแปลงแน่นอน...เพราะมันเป็นวิถีโลก ที่ว่าสรรพสิ่งใดๆ ล้วนต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาล
มันจึงสำคัญที่ว่า เราจะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของคู่ของเรา ได้ยังไง...มากกว่า!
...
บ่อยครั้ง ที่เราอาจไม่พอใจคู่ของเรา...และบ่อยครั้ง เราเองก็เป็นฝ่ายทำให้คู่ของเรา ไม่พอใจ
บางเรื่อง ก็ปล่อยให้เวลาเยียวยาและบรรเทาให้ความไม่พอใจนั้น หายไปได้
แต่บางเรื่อง การพูดคุยปรับความเข้าใจ อาจเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับชีวิตคู่
...
จงจำไว้ ว่าเราต่างก็มีโอกาสทำผิดต่อกัน...ไม่ว่าจะโดยจงใจ, เลินเล่อ, เผลอเรอ หรือคิดไม่ถึงเอาจริงๆ
แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม...เมื่อเรามีชีวิตคู่แล้ว ก็ต้องเปิดโอกาสให้คู่ชีวิต ได้แก้ไขข้อผิดพลาด ได้เสมอ
ผมคิดว่า...บางทีคนเดียวบนโลก (ซึ่งไม่ได้ผูกพันกับเราทางสายเลือด) ที่เราอยากให้อภัย และได้รับการให้อภัย โดยไม่ต้องอาศัยเหตุผลหรือตรรกะอะไรมากมาย...ก็คือ “คู่ชีวิต” ของเรา นั่นล่ะครับ
...
ถ้าจะให้ผมเปรียบเทียบ...การใช้ชีวิตคู่ ก็น่าจะใกล้เคียงกับการชวน “คนรู้ใจ” ไปวิ่งมาราธอนด้วยกันล่ะครับ
ผมเชื่อว่า มาราธอนแบบนี้...คนส่วนใหญ่ คงไม่ได้ตั้งเป้าที่จะเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่ง...โดยทิ้งให้คนรู้ใจวิ่งไปคนเดียวตามลำพัง เป็นแน่
ชนะเป็นที่หนึ่งคนเดียว จึงไม่มีค่าอันใดเลย...หากว่า คู่ใจของเราไม่ได้วิ่งเข้าเส้นชัยมาพร้อมกับเราด้วย
...
ใครที่มีคู่ใจอยู่ข้างๆ, ไม่ว่าจะแต่งงานแล้ว, อยู่ด้วยกันเฉยๆ หรือกำลังจะแต่งงาน...ก็แล้วแต่
จงจำไว้ว่า...เคล็ดวิชาสูงสุดของชีวิตคู่ คือต้องสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับคู่ชีวิต ได้เสมอ นั่นเอง
สำคัญที่ว่า ไม่ใช่เราต้องเป็นคนเดียวที่ต้องคอยปรับ...คู่ชีวิตของเราเอง ก็ต้องเรียนเคล็ดวิชาเดียวกันกับเราด้วย
...ว่าแล้ว ก็มาชวน “คู่ชีวิต” ของเรา ออก “วิ่งมาราธอนแห่งชีวิตคู่” ไปให้ถึงเส้นชัยพร้อมๆ กัน ดีกว่าครับ...
#NoteToSelf:
- ชีวิตคู่ ไม่ได้วัดความสำเร็จด้วย “ความมั่งคั่ง”...หากแต่วัดกันด้วย “ความมั่นคง”
- แม้จะร่ำรวยล้นฟ้า...แต่เมื่อเหลียวหลังแลหน้า ก็ไม่เจอคนที่เราต้องการ ร่วมยินดีอยู่ด้วย...จะยังประโยชน์อันใด?
- จงอย่าได้ลืมเป็นอันขาด...ว่ามาราธอนของ “ชีวิตคู่”...คือการได้ออกจากจุดสตาร์ทและวิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมกับ “คู่ชีวิต”
- ชีวิตคู่ จึงไม่ใช่การที่เราต้องรักกันทุกวัน...แต่เป็นการทำให้กลับมารักกันเหมือนเดิม หลังจากมีเรื่องทำให้ไม่พอใจกัน ต่างหาก
Comments
Post a Comment