Skip to main content

Post#5-203: Symphony of Harmony

Post#5-203:
เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา...ผมมีโอกาสได้ไปอยู่ในงานมอบรางวัล Thailand International Wind Symphony Competition 2018 (TIWSC 2018)

ดูแล้วก็ได้แต่ทึ่งกับศักยภาพของเด็กไทย...ที่ต้องถือว่า มีฝีไม้ลายมือไม่แพ้ชาวต่างชาติเลยล่ะครับ

เอาจริงๆ ก็คงเป็นอย่างที่หลายๆ คน เคยพูดเอาไว้...ว่าคนไทยก็เจ๋งไม่แพ้คนชาติไหนในโลก

...

ในบรรดาการประกวดดนตรีที่หลากหลาย...แบบ Symphony นี่ต้องถือเป็นที่สุดของการแข่งขันทางดนตรีที่ถือว่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแล้วครับ (อย่างน้อยก็สำหรับผม)

เพราะนอกจากแต่ละคนในวง จะต้องมีฝีมือระดับเทพแล้ว...ยังต้องเล่นให้สอดประสานกับเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆ ด้วย

แค่เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น ก็สร้างความสุนทรียรสให้แก่จักษุประสาทและโสตประสาท มากแล้ว...แต่การได้ดูและสดับความกลมกลืนของเครื่องดนตรีกว่า 70 ชิ้น บรรเลงร่วมกันนี่...

หากไม่สร้างความประทับใจ ก็ต้องบอกว่าใครคนนั้น ต้องใจกระด้างน่าดู

...

แล้วถ้าเราสามารถทำให้การทำงานในองค์กร กลายเป็น Symphony ได้ล่ะ?

คิดดูทีครับ...ว่าศักยภาพขององค์กรจะยกระดับไปได้ถึงเพียงไหนกันหนอ?

ว่าแล้ว คำสอนของอดีตเจ้านายท่านหนึ่ง ก็ก้องอยู่ในสมองและครรลองใจของผม...

ผสมส่วนเหมือน ผสานส่วนต่าง...ดุจเล่นอยู่ในวงดนตรีเดียวกัน

...เมื่อใด ที่เรานำความสุดยอดของแต่ละคนมารวมกันอย่างกลมกลืน...เมื่อนั้น ศักยภาพที่จริงแท้ขององค์กร จะบังเกิด...

#NoteToSelf: 

  • ความภูมิใจที่เราเล่นดนตรีเก่งสุดยอด...น่าจะไม่อาจเทียบได้กับการที่เราได้เล่นกับคนเก่งๆ จนกลายเป็น Symphony ที่สุดยอด
  • Harmony จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนในองค์กรต้องร่วมกันสร้าง...แม้จะคิดต่างแต่ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว
  • จะเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่...คำสอนนี้ก็ยังไม่เคยลบเลือนไปจากใจเลยครับ #ขอบคุณครับเฮียก่อ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...