Skip to main content

Posts

Showing posts from November, 2014

Post#2-84: รายทางระหว่างทริป#5

Post#2-84: พฤติกรรมเรื่องทิปของคนที่นี่เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความโหดในมุมมองของคนไทยอย่างเราๆ เป็นอย่างมาก เวลาที่เรียกเช็คบิล ร้านจะคำนวณให้เลยว่า 18% เป็นเงินเท่าไหร่, 20% เป็นเงินเท่าไหร่ หรือ 25% เป็นเงินเท่าไหร่, โดยมากแล้ว ก็มักจะไม่ต่ำกว่า 15% ไม่ว่าจะไปร้านไหน เท่าที่ผมสังเกต ค่าทิปนี่ไม่ค่อยเกี่ยวกับระดับของการบริการ เหมือนเป็นธรรมเนียมซะล่ะมากกว่า โดยมากแล้ว ลูกค้าก็จะให้ที่ขั้นต่ำนั่นแหละครับ เรียกว่า ลูกค้าน่ะทำใจตั้งแต่ก่อนสั่งอาหารแล้ว ว่ายังไงซะก็จะต้องจ่ายค่าบริการส่วนนี้ด้วย ฟังจากที่น้องสาวผมเล่า การบริการทุกอย่างของที่นี่ ล้วนแล้วแต่ต้องให้ทิปทั้งสิ้น ไม่ว่าจะไปตัดผม ทำเล็บ หรืออื่นๆ นี่เป็นอีกหนึ่งนิสัยที่ผมไม่ค่อยปลื้มกับประเทศนี้ เพราะผู้คนส่วนใหญ่มักจะสะท้อนค่านิยมชอบเอาเปรียบชาวบ้านเกินไปซะหน่อย...จะบริการดีหรือไม่ดีก็คาดหวังว่าจะได้รับทิป ส่วนบ้านเรา ส่วนใหญ่แล้ว การบริการมักออกมาจาก inner ของคนไทย เรียกว่า ยังไงก็ต้องบริการลูกค้าไว้ก่อน จะได้ทิปหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง พนักงานที่นี่ ทำงานหวังทิป ส่วนพนักงานที่บ้านเรา ทำงานห...

Post#2-83: รายทางระหว่างทริป#4

Post#2-83: เมื่อวานเล่าเรื่องเครียดไปนิด คราวนี้มาเรื่องเบาๆ บ้างละกันนะครับ ^^ วันรุ่งขึ้นของวันที่ผมมาถึง เป็นวันขอบคุณพระเจ้า (หรือฝรั่งเรียกว่า Thanksgiving Day) ซึ่งมีความสำคัญเหมือนวันตรุษจีนของชาวจีนในเมืองไทยนั่นล่ะครับ เท่าที่ผมทราบมา วันนี้ยังถือเป็นวันหยุดแรกของปีของพวกเค้าอีกด้วย (ที่ประเทศนี้ ไตรมาสที่ 1 จะตรงกับไตรมาสที่ 4 ของบ้านเรา) ลึกๆ ผมก็ไม่ค่อยทราบถึงความสำคัญของวันนี้มากนักนะครับ เข้าไปค้นใน Google ก็ไม่ได้ความประทับใจอะไรมากนัก แต่เมื่อพูดถึงวันนี้ ก็ต้องนึกถึง "ไก่งวง" ซึ่งถือเป็นอาหารประจำเทศกาล ประมาณว่า ถ้าไม่กินถือว่า "ผิด" (อิอิ ยืม "ครัวคุณต๋อย" มาครับ) แต่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่กลายเป็นว่า วันขอบคุณพระเจ้านี้ กลายเป็นเทศกาลที่ผู้คนต่างรอคอยเพื่อจะออกมา "ช้อปปิ้ง" กันแบบสะบั้นหั่นแหลก เพราะสินค้าต่างๆ ลดราคาลงแบบเรียกว่า "ถูกที่สุดของปี" ถูกกว่าวันคริสต์มาสซะอีก เรียกว่าบางคนตื่นแต่เช้า ตี 4 หรือตี 5 เพื่อที่จะได้ไปเข้าคิวแรกๆ กันเลยทีเดียว ส่วนกะเหรี่ยงอย่างผม ไปช้อปปิ้งเอาดึกๆ ช่วงประมาณ 3 ท...

Post#2-82: รายทางระหว่างทริป#3

Post#2-82: โดยส่วนตัว ผมมีประสบการณ์ไม่ค่อยดีกับประเทศผู้ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งนี้ซักเท่าไหร่ มากี่ครั้งก็เจอเรื่องไม่น่าประทับใจซักครั้ง ครั้งนี้ก็ไม่เว้น... ทั้งครอบครัวถูกกักอยู่ที่ ตม. เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ด้วยเพราะการกรอกแบบฟอร์ม ตม. แบบขอไปทีของคนไทยทั่วไป ซึ่งผมเองไม่รู้จะโทษใครนอกจากโทษตัวเอง ขอนำมาแชร์ไว้นิด เผื่อคนที่จะเข้าประเทศนี้ครับ ตามกฎของ CBP (Customs and Boarder Protection) แล้ว ถ้าจะมีการนำเงินตราเข้าประเทศเกินกว่า US$10,000 จะต้องแจ้งในใบ CBP ซึ่งจะต้องรวมเอาเงินทุกสกุลเข้าไปด้วย ที่ผมเจอดีก็คือ ดันเอาเงินไปเก็บรวมกันไว้ที่แม่ ทึกทักเอาเองว่า มากันตั้งหลายคน ถัวๆ กันไปก็ได้ และโชคดีซ้ำซ้อนที่พ่อดันพกเงินไทยมาซะมากมาย โดยที่ผมไม่ทราบมาก่อน รวมๆ กันแล้ว ทั้งครอบครัวผม (ใช้นามสกุลเดียวกัน) เลยโดนรวบ เพราะในใบ CBP (ใบที่ต้องกรอกเมื่อจะเข้าประเทศ) ดันไปติ๊ก no (เอาเงินมาไม่เกิน US$10,000) เค้าเลยกาหัวว่า ไม่ยอมแจ้งข้อมูลจริง หลังจากใช้เวลาที่ ตม. อย่างยาวนาน จากนั้นก็โดนกักตัวทั้งครอบครัว ที่ด่านศุลกากรอีกครั้ง (เพราะโดนกาหัว “ต้องสงสัย” มาแล้ว) เจ้าหน้าที่ม...

Post#2-81: รายทางระหว่างทริป#2

Post#2-81: Post วันนี้ จะว่าไป ก็เป็นเรื่องต่อจากเมื่อวานนะครับ... ต้องยอมรับว่า ไม่บ่อยครั้งนักที่ผมจะได้มีโอกาสอยู่กับพ่อและแม่พร้อมหน้ากันอย่างการเดินทางทริปนี้ แม่ผมเป็นประเภทไม่ชอบอยู่บ้าน ชอบไปพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ ส่วนพ่อผมเป็นประเภทเก็บตัวเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่ ดังนั้นเวลาผมไปเจอพ่อ ก็มักจะไม่ได้เจอแม่ และถ้าไปกับแม่ พ่อก็มักจะไม่ได้มาแจม... เมื่อครั้งนี้สบโอกาส ผมได้เดินทางกับทั้งคู่พร้อมๆกัน และผมได้มีโอกาสดูแลท่านมากกว่าทุกๆ วัน จึงเป็นความรู้สึกพิเศษที่ผมแอบปลื้มเป็นการส่วนตัว ได้เถียงกับแม่ตอนท่านจัดกระเป๋า และบอกแม่ไปกว่า 10 ครั้ง ว่าเอาใบกระเพรา, พริก และมะนาว เข้าประเทศเรื่องมากนี้ไม่ได้ (ระหว่างพิมพ์ Post นี้ ผมยังแอบลุ้น ว่าแม่ซ่อนอะไรที่ผมไม่รู้มาอีกรึเปล่า เพราะดูเหมือนคำว่า "เจ้าหน้าที่ หรือ ตม." จะทำอะไรแม่ไม่ได้ -"-) ได้ปวดหัวระคนระอาใจ เมื่อพบว่า การจัดกระเป๋าเดินทางให้มีน้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลฯ เป็นเรื่องยากมากของทุกคนที่ร่วมทริป ระหว่างรอขึ้นเครื่อง ได้มีโอกาสเสิร์ฟน้ำและของกินให้พ่อ นั่งดูท่านกินไปบ่นไป ...

Post#2-80: รายทางระหว่างทริป#1

Post#2-80: ขณะที่พิมพ์ Post นี้อยู่ ผมพบตัวเองอยู่ที่ท่าอากาศยานอินชอน ในเกาหลีใต้ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่องเดินทางต่อไปยังปลายทาง (ตีห้ากว่าๆ กับอาการง่วงนอน แต่ดันนอนไม่หลับ) ว่ากันที่จริง ในช่วง 10 ปีมานี้ ผมไม่ได้มีโอกาสเดินทางบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ต้องนับว่ายังได้ไปต่างประเทศบ่อยกว่าค่าเฉลี่ยของคนไทยโดยทั่วไป ด้วยเหตุแห่งภาระหน้าที่ที่มีอยู่ ในความเหนื่อยหน่ายของการเดินทางนั้น ผมพบว่ามันก็มีความน่าสนใจอยู่บ้าง ตรงที่ผมได้มีโอกาสพบเจอผู้คนและวัฒนธรรมที่แตกต่างและหลากหลาย...ซึ่งตรงนี้ถือเป็นกำไรชีวิต ยิ่งถ้าเป็นการเดินทางเพื่อไปเที่ยว ไม่ใช่ไปทำงานนี่ ผมบอกได้เลยครับว่า กำไรเป็น 2 เท่า ... ถ้าใครมีโอกาสและทุนทรัพย์ที่เอื้ออำนวย ผมก็จะเชียร์ให้เดินทางท่องเที่ยว...และจะให้ดีก็ควรจะไปเที่ยวแบบไม่ต้องใช้บริการของบริษัททัวร์ ไม่รู้สิครับ...สำหรับผมแล้ว...ส่วนใหญ่แล้ว การไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ (ไม่ใช่ทุกบริษัทนะครับ) ผมพบว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงปริมาณมากกว่า ซึ่งต่างจากการไปเที่ยวด้วยตัวเอง ที่ให้ความรู้สึกของการท่องเที่ยวชัดเจนและเต็มอารมณ์กว่ามาก ใครที่ยัง...

Post#2-79: ความสำคัญของเวลา

Post#2-79: ในยุคสมัยนี้ บางครั้งคำกล่าวที่ว่า "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก" อาจจะเสื่อมความสำคัญไปมาก ดูอย่างองค์กรที่ยิ่งใหญ่หลายๆ แห่งที่ปิดตำนานความยิ่งใหญ่ไว้เบื้องหลัง ผมเคยได้ยินผู้ใหญ่ของวงการธุรกิจท่านหนึ่งสั่งสอนไว้ว่า ยุคนี้เป็นยุค "ปลาเร็วกินปลาช้า" เมื่อพิจารณาตามท่านดีๆ ก็เห็นจริงตามที่ท่านว่า คือใครตอบสนองความต้องการของตลาดได้เร็วกว่า ก็มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จได้ แปลว่า "เวลา" เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่เราไม่อาจมองข้ามหรือละเลยไปได้ กระนั้นแล้ว บางคนก็ปล่อยให้เวลาสูญหายไปอย่างไร้ความหมาย หายใจทิ้งไปพร้อมๆ กับการมองเข็มนาฬิกาขยับ ส่วนการใช้เวลาในการทำให้ตัวเองมีความสุขนั่นไม่นับอยู่ในข่ายนี้นะครับ (Post#2-9) จำได้ว่าผมได้อ่านเรื่องข้างล่างนี้ครั้งแรกๆ เมื่อหลายปีก่อน เป็นเรื่องที่พูดถึงเรื่องความสำคัญของเวลา...และวันนี้มีน้องคนหนึ่งส่งมาให้อีกที ก็เลยอยากนำมาแชร์ครับ ... ถ้าอยากรู้ว่า เวลา 1 ปี มีค่าเพียงใด  ให้ถามนักเรียนที่ซ้ำชั้น หรือคนที่ตกงาน ถ้าอยากรู้ว่า เวลา 1 เดือน มีค่าเพียงใด  ให้ถามแม่ที่คลอดลูกก่อนกำหนด...

Post#2-78: แก้ไขปัญหาแบบไหน

Post#2-78: เคยสงสัยบ้างมั๊ยครับ ว่าเราเป็นคนประเภทชอบป้องกันหรือแก้ไข? ถ้าให้คนส่วนใหญ่ "พูด" ส่วนมากจะบอกว่าตัวเองเป็นพวก "ป้องกัน" เพราะพูดแบบนี้ทำให้ตัวเองดูดี...แต่ไม่ค่อยมีใครยอมรับว่า จริงๆ แล้ว ตัวเองเป็นพวกก่อนทำไม่ค่อยคิด ทำไปก่อน เกิดอะไรขึ้นก็ค่อยไป "แกัไข" เอาข้างหน้า ในเมื่อคนที่ชอบ "แก้ไข" มีเยอะกว่า คราวนี้ลองมาเช็คพฤฒิกรรมกันดูครับ ว่าจริงๆ แล้ว เราเป็นคนที่แก้ไขข้อผิดพลาดแบบ "เชิงรุก" (active) หรือว่า "เชิงรับ" (passive)... เวลาน้ำหนักขึ้น เราเลือกที่จะ a.ทานอาหารให้น้อยลง ทนหิวเอา b.ทานอาหารเท่าเดิม แต่ใช้วิธีออกกำลังกายหนักๆ c.มีคำตอบอื่นในใจ เวลาอยู่ในห้องนอน เปิดแอร์แล้วหนาว เราเลือกที่จะ a.ห่มผ้าหนาๆ สวมถุงเท้า b.หนาวก็ปิดแอร์สิ ทนทำไม c.มีคำตอบอื่นในใจ เวลาขับรถหลงทาง เราเลือกที่จะ a.จอดรถถามคนข้างทาง b.ขับวนไปวนมา สังเกตป้ายไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอ c.มีคำตอบอื่นในใจ เวลานอนไม่หลับ เราเลือกที่จะ a.นอนพลิกไปพลิกมา เดี๋ยวก็หลับเอง b.ลุกขึ้นมาหาอะไรทำ ง่วงเมื่อไห...

Post#2-77: ลูกเรากำลังแข่งอยู่กับใคร?

Post#2-77: หนึ่งในกับดักสำคัญที่ผมคอยเตือนตัวเองให้ระวังในการเลี้ยงลูกก็คือ "การเปรียบเทียบ" ที่ผมว่าเรื่องนี้เป็นกับดักสำคัญ ก็เพราะหากเค้าเปรียบเทียบตัวเองไม่ถูกวิธี ก็อาจส่งผลเสียกับเค้าในระยะยาวได้อย่างมาก กลายเป็นพวก "ไม่กล้าออกนอกกรอบ" หรืออาจกลายเป็นพวก "แพ้ไม่เป็น" ก็เป็นได้ ... ผมมักจะกังวลใจเวลาลูกเล่าให้ฟังว่า วันนี้เค้าทำอะไรชนะเพื่อนได้บ้าง? กลับมานั่งทบทวนตัวเองว่า ผมมีส่วนทำให้ลูกชอบ "เอาชนะ" รึเปล่า? ก็ตอบตัวเองได้ไม่แน่ชัด และผมก็ไม่ได้ไปอยู่กับเค้าตลอดเวลา จึงไม่อาจรู้ได้ว่า ที่โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศในการอยู่ร่วมกันแบบใด? แน่นอนว่า ผมชอบและอยากให้ลูกเป็น "ผู้ชนะ" แต่เป็นผู้ชนะเมื่อเทียบกับอะไรต่างหาก ที่ตัวผมเองและคนที่เป็นพ่อและแม่ทั้งหลาย ต้อง"ปุจฉา" ตัวเอง ... การที่เค้าชนะเพื่อนไม่ได้หมายความว่าเค้าเก่ง เพราะการเทียบแบบนี้เป็นการเทียบแบบ "อิงกลุ่ม" (เคยเล่าไว้ครั้งนึงแล้วใน Post#189) ซึ่งถ้าไม่ระวัง เค้าอาจจะเคยชินกับการเทียบตัวเองกับรอบข้าง โดยไม่เห็นภาพท...

Post#2-76: โค้ชกีฬากับที่ปรึกษาธุรกิจ

Post#2-76: คืนวานนี้ อดีตลูกน้องผมคนหนึ่ง มาปรึกษาเรื่องธุรกิจใหม่ที่ทำอยู่ เธอพึ่งจะเริ่มต้นเป็นเจ้าของกิจการใหม่ และก็เหมือนส่วนใหญ่ของ "เถ้าแก่" มือใหม่ ที่ทำมากกว่า 1 กิจการไปพร้อมๆ กัน เรียกว่าอะไรที่แปลงเป็นเงินได้ "เหมาหมด" ว่าอย่างงั้น ความจริงก็ไม่ได้มีบทบัญญัติไว้ตายตัว ว่าเถ้าแก่มือใหม่ต้องทำเพียงธุรกิจเดียวเท่านั้น แต่การเริ่มต้นทุกอย่างพร้อมๆ กันต่างหาก ที่อาจจะทำให้ยากกว่าปกติไปมาก ... ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เถ้าแก่มือใหม่มีแรงขับเคลื่อนมากแค่ไหน ผมคงต้องเปรียบเทียบกับ "นักกีฬาว่ายน้ำ" แต่เป็นนักว่ายน้ำแบบที่พึ่งจะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกๆ ซึ่งยังวางแผนไม่เก่ง พอลงสระปุ๊บก็จ้วงเอาๆ หารู้ไม่ว่ากำลังว่ายแข่งรอบคัดเลือก ซึ่งจากการที่จ้วงเอาๆ นี่แหละทำให้ทำเวลาในรอบคัดเลือกได้ดี ...แต่พอเข้ารอบแข่งจริงแล้ว กลับหมดแรง ว่ายต่อไม่ไหว แพ้ไปอย่างน่าเสียดาย เรียกว่า แพ้เพราะวางแผนไม่ดี ว่าอย่างงั้น ... นักกีฬาว่ายน้ำมือใหม่ ที่ฝึกซ้อมด้วยตัวเอง เวลาฝึกซ้อมก็มักจะเน้นว่ายไปเรื่อยๆ ให้กำลังอยู่ตัว แต่ถ้าฝึกซ้อมโดยมีโค้ช ก็จะฝึกท...

Post#2-75: ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

Post#2-75: เมื่อวานเพื่อนผมคนหนึ่งโทรมาหา เธอมีเรื่องมาเม้าส์ให้ผมฟัง เพื่อนผมคนนี้และสามีของเธอ (ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่ผมสนิทและนับถือที่สุดท่านหนึ่ง) เป็นผู้ใฝ่ธรรมะ ถือศีลแปดทุกวันพระ และเดินสายทำบุญกันบ่อยมาก บางครั้งถึงกับไปบำเพ็ญบารมีถึงประเทศอินเดีย ก็ทำมาแล้ว ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว อย่างผมนี่เรียกว่าธรรมะสาย “ศึกษา” รู้ทฤษฏีธรรมะมากจริง (เรียกว่าเน้น "ปริยัติ") แต่ยังย่อหย่อนกับการปฏิบัติ ในขณะที่เพื่อนผมเป็นสายเน้น “ปฏิบัติ” และรู้ปริยัติในระดับดี คราวนี้ ให้บังเอิญเพื่อนผมไปเจอเพื่อนอีกท่านหนึ่ง (สมมติว่าชื่อ A ละกันนะครับ) ที่มีความรู้ในเรื่องศาสตร์แห่งตัวเลขในระดับขั้น “เทพ” เจ๋งขนาดที่ว่า เห็นเบอร์โทรศัพท์ผมปุ๊บ บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเจ้าของเบอร์ฯ ได้ราวกับรู้จักกันมาเป็นสิบๆ ปี พอเธอฟังเรื่องที่ A เล่าถึงชีวิตของผมปั๊บ เธอบอกว่า เธอไม่อยากจะเชื่อ เพราะ A เล่าออกมาอย่างชนิดที่เรียกว่า นึกว่าผมมาเล่าชีวิตของผมให้เธอฟังอยู่ตรงหน้ายังไงยังงั้น เธอและสามีของเธอรู้ดีว่า ผมเป็นคนไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย แต่ด้วยความหวังดีและเป็นห่วงผม เธ...

Post#2-74: เมื่อลูกเป็นฝั่งเป็นฝา

Post#2-74: เช้านี้ผมได้รับเชิญไปร่วมงานหมั้นเพื่อนรุ่นพี่ที่ผมเคารพมากท่านหนึ่ง ถ้าจะหาใครซักคนที่มีความเป็น "ลูกผู้ชาย" ตัวจริงที่ผมรู้จัก ย่อมต้องมีชื่อของพี่ท่านนี้อยู่ด้วยอย่างแน่นอน ที่ผมว่าพี่เค้าเป็น "ลูกผู้ชาย" ไม่ใช่เพราะเค้าเป็นพวกกล้ามใหญ่ใช้พลัง แต่เป็นเพราะวิธีการสู้ชีวิตของเค้าต่างหาก ที่ดูแลและนำธุรกิจครอบครัวจากปีละไม่กี่สิบล้าน จนปัจจุบันเป็นธุรกิจหลักหลายพันล้าน และกลายเป็นบริษัทมหาชนอย่างเต็มภาคภูมิ ช่วงที่ธุรกิจของเค้าบูมมากๆ มีบริษัทยักษ์ใหญ่มาเสนอ take over ด้วยเม็ดเงินมหาศาล แต่พี่เค้าไม่ขาย ด้วยเหตุผลเดียว "ผมรักบริษัทและพนักงานทุกคน" "ลูกผู้ชาย" ตัวจริง มั๊ยล่ะครับ? ย้อนหลังไปเมื่อหลายปีก่อน ผมเองก็ได้รับโอกาสจากพี่ชายที่แสนดีท่านนี้ ให้บริษัทเล็กๆ ของผมได้เข้าไปรับงาน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้ทำงานร่วมกัน แต่ผมไม่เคยลืมความกรุณาที่พี่เค้ามีให้กับผมเลย จวบจนวันนี้ พี่เค้าก็ยังให้ความเมตตาและช่วยเหลือผมอยู่เสมอ ... พิธีการต่างๆ ในวันนี้  เท่าที่ฟังจากพิธีกรแล้ว ต้อง เรียกว่าเป็นแบบ ...

Post#2-73: มิงกะละบา...พม่าที่รัก

Post#2-73: เมื่อวานรวมทั้งวันนี้ ผมมาประชุมที่ประเทศพม่าครับ เป็นการกลับมาเยือนหลังจากห่างหายไปกว่า 9 เดือน มาคราวนี้ พบว่าการจราจรในกรุงย่างกุ้งนับวันจะทวีความสาหัสมากขึ้นเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ จากสนามบินเข้าตัวเมือง ประมาณ 15 ก.ม. เราอาจต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 45 นาทีหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา ก่อนหน้านี้ไม่เกิน 3 ปี รถยนต์ในกรุงย่างกุ้งเป็นรถยนต์มือสองจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก หารถยนต์มือใหม่แทบไม่ได้ ยิ่งรถแท็กซี่นี่ เก่าซะจนไม่แน่ใจว่า จะพาเราไปถึงจุดหมายได้มั๊ย ไม่ต้องพูดถึงแอร์ในรถ เพราะขนาดหน้าต่างรถยังไขไม่ได้เลยเชียว มาวันนี้ รถยนต์ใหม่ๆ เต็มท้องถนน เรียกว่า "นำเข้า" กันแบบไม่บันยะบันยัง ซึ่งข่าวไม่ได้กรองจากเพื่อนชาวพม่าของผมแจ้งว่า มีการนำเข้ารถยนต์มากกว่า 5 หมื่นคันในช่วงต้นๆ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ประเทศพม่า กำลังเป็นประเทศเนื้อหอมที่เป็นจุดสนใจของการลงทุนจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก และหนึ่งในนั้นก็มีนักลงทุนชาวไทยอยู่ด้วยเช่นกัน สินค้าแบรนด์ไทยและแบรนด์นอก ต่างมาขุดทองกันไม่เว้นแต่ละวัน สิ่งที่หายากมากของบริษัทข้ามชาตินั้น มีอยู่ 2 เรื่อง...

Post#2-72: "เจ้านาย" ในดวงใจ

Post#2-72: ระหว่างนั่งรอเวลาเครื่องออกอยู่ที่ King Power Lounge ผมโชคดีที่มีโอกาสได้พบอดีตเจ้านายที่รักยิ่งท่านหนึ่ง (เคยเล่าถึงคำสอนของท่านไว้ครั้งหนึ่งแล้วใน Post#252) ให้น่าแปลกใจที่ผมพึ่งจะนึกถึงท่านเมื่อ 2-3 วันมานี้เอง... สมัยที่ผมทำงานอยู่กับท่าน บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านต้องเคี่ยวเข็ญลูกน้องสารพัด เรียกว่าประชุมกับท่านแต่ละครั้ง ทุกคนแทบจะถอดใจเลยทีเดียว แล้วโชคชะตาก็ส่งผมออกมาเผชิญโลกกว้าง ผมไม่ได้เป็นลูกน้องท่านอีกต่อไป...แต่วันที่ผมไปกราบลาท่าน ท่านก็ยังเป็นห่วงเป็นใย สั่งสอนและให้แนวคิดต่างๆ อีกมากมาย ...ผ่านไปกว่า 4 ปี จนวันนี้ผมมาพบท่านโดยบังเอิญ ผมเข้าไปกราบสวัสดีท่าน และมีโอกาสได้สนทนากับท่านอยู่พักสั้นๆ ผมเรียนท่านว่า ผมต้องกราบขอบคุณท่าน เพราะวิชาความรู้ที่ท่านเคี่ยวเข็ญพร่ำสอน ผมได้ใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้ฟันฝ่ามาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อนึกถึงเวลาที่ผมเคี่ยวเข็ญ, ดุว่า และผลักดันลูกน้องครั้งใด ผมเป็นต้องเห็นหน้าท่านลอยมาในห้วงนึกทุกทีไปเช่นกัน ตอนหนึ่งของการสนทนา ท่านก็ให้แนวคิดในการทำธุรกิจ ซึ่งผมฟังไปก็อมยิ้มไป เพราะเมื่อก่อนท่านเคยส...

Post#2-71: หลักคิดของไอน์สไตน์

Post#2-71: ถ้าจะมีการยกย่องใครให้เป็น "อัจฉริยะบุคคลของโลก" หนึ่งในนั้นย่อมต้องมี Albert Einstein (อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์) อยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย ปล่าวครับ ผมไม่ได้จะมาชวนคุยเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่จะมาชวนให้ชื่นชมหลักคิดของไอน์สไตน์ ที่ผมคิดว่าเป็น "แก่น" ของการมองโลกของอัจฉริยะผู้นี้ จนนำไปสู่การค้นพบสำคัญๆ และเปลี่ยนแปลงโลก ส่วนที่ว่าไอน์สไตน์ทิ้งมรดกอะไรให้โลกนี้บ้าง ผมขออนุญาตข้ามไปนะครับ เพราะจาระไนไม่หมดจริงๆ แต่ได้แปะ link ให้ผู้สนใจไว้แล้ว ผมไม่ทราบว่า หลักคิดนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร แต่ไปเห็นครั้งแรกที่กรุงจาการ์ต้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เพิ่งจะสบโอกาสได้ค้นข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ ผมขอเรียกรวมๆ ว่า "หลักคิดของไอน์สไตน์" ก็แล้วกันนะครับ (พร้อมกับหลักคิดที่ว่า ผมได้แปลเป็นภาษาไทยให้แล้วในวงเล็บ ก็ต้องขออภัยหากแปลแล้ว ฟังไม่รื่นหูพอนะครับ) Out of cluster, find simplicity. (ในความสับสนวุ่นวายนั้น, จงมองหาความเรียบง่าย) From discord, find harmony. (จากความขัดแย้ง, จงมองหาความกลมกลืน) In the middle of difficulty, lies opportunity. (ท่ามกลา...

Post#2-70: มากที่สุด คือ...

Post#2-70: เช้าตรู่วันนี้ ผมได้รับ forwarded message ทาง Line จากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมเคารพ เห็นว่าสะกิดต่อมคิดได้ดี จึงนำมาแชร์ต่อครับ เนื่องจากเนื้อหาเข้าใจได้ด้วยตัวมันเอง (ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Self-explanatory) และจุดประสงค์ของผม อยากให้ทุกท่านนำไปคิดต่อ ผมจึงขออนุญาตไม่ขยายความนะครับ ^^ ... "มากที่สุด" คือ... เครื่องประดับที่มีค่ามากที่สุด คือ...รอยยิ้ม   สิ่งที่ต้องปกป้องมากที่สุด คือ...สติ   สิ่งที่ต้องรอบคอบมากที่สุด คือ...ความคิด   สิ่งที่ต้องควบคุมมากที่สุด คือ...อารมณ์ สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด คือ...คำพูด สิ่งที่ต้องถนอมมากที่สุด คือ...ความรัก สิ่งที่ต้องพัฒนามากที่สุด คือ...นิสัย ของใช้ประจำตัวที่มีค่ามากที่สุด คือ...ปัญญา ... ว่าแล้วตามสไตล์ของผมก็ต้องคิดต่อ... สิ่งที่ต้องรักษามากที่สุด คือ...สัญญา ของขวัญที่ควรมอบให้ผู้อื่นมากที่สุด คือ...น้ำใจ สิ่งที่ควรมอบให้ผู้อาวุโสมากที่สุด คือ...ความเคารพ สิ่งที่ควรมอบให้ผู้น้อยมากที่สุด คือ...ความเมตตา สิ่งที่ควรดูแลมากที่สุด คือ...สุขภาพ ...