Skip to main content

Post#2-81: รายทางระหว่างทริป#2

Post#2-81:
Post วันนี้ จะว่าไป ก็เป็นเรื่องต่อจากเมื่อวานนะครับ...

ต้องยอมรับว่า ไม่บ่อยครั้งนักที่ผมจะได้มีโอกาสอยู่กับพ่อและแม่พร้อมหน้ากันอย่างการเดินทางทริปนี้

แม่ผมเป็นประเภทไม่ชอบอยู่บ้าน ชอบไปพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ ส่วนพ่อผมเป็นประเภทเก็บตัวเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่

ดังนั้นเวลาผมไปเจอพ่อ ก็มักจะไม่ได้เจอแม่ และถ้าไปกับแม่ พ่อก็มักจะไม่ได้มาแจม...

เมื่อครั้งนี้สบโอกาส ผมได้เดินทางกับทั้งคู่พร้อมๆกัน และผมได้มีโอกาสดูแลท่านมากกว่าทุกๆ วัน จึงเป็นความรู้สึกพิเศษที่ผมแอบปลื้มเป็นการส่วนตัว

ได้เถียงกับแม่ตอนท่านจัดกระเป๋า และบอกแม่ไปกว่า 10 ครั้ง ว่าเอาใบกระเพรา, พริก และมะนาว เข้าประเทศเรื่องมากนี้ไม่ได้ (ระหว่างพิมพ์ Post นี้ ผมยังแอบลุ้น ว่าแม่ซ่อนอะไรที่ผมไม่รู้มาอีกรึเปล่า เพราะดูเหมือนคำว่า "เจ้าหน้าที่ หรือ ตม." จะทำอะไรแม่ไม่ได้ -"-)

ได้ปวดหัวระคนระอาใจ เมื่อพบว่า การจัดกระเป๋าเดินทางให้มีน้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลฯ เป็นเรื่องยากมากของทุกคนที่ร่วมทริป

ระหว่างรอขึ้นเครื่อง ได้มีโอกาสเสิร์ฟน้ำและของกินให้พ่อ นั่งดูท่านกินไปบ่นไป "ไม่ค่อยอร่อย" อ้าว แต่พ่อเบิ้ล 2 ชาม >_<"

ระหว่างไปขึ้นเครื่อง แม่เดินเกาะแขนผมไปเกือบตลอดทาง ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็น "ที่พึ่ง" ให้แม่ได้บ้าง ทั้งที่ความจริงแม่ต่างหาก ที่เป็นทึ่พึ่งของผมมาตลอดชีวิต

ช่วงต่อเครื่องที่อินชอน ผมต้องแบกกระเป๋าคนเดียว 5 ใบ (ของผมแค่ 1) พะรุงพะรังเหมือนบ้าหอบฟาง ไหล่ลู่ แขนล้า แต่ใจผมมีความสุขสุดๆ ที่ได้หิ้วและลากกระเป๋าให้ท่าน

ขึ้นเครื่องไป ก็ได้ห่มผ้าให้แม่ตอนที่ท่านหลับ ได้นั่งคุยกับพ่อ เห็นท่านยิ้มอย่างมีความสุข ยิ่งใกล้ถึงที่หมาย ตาของท่านยิ่งเป็นประกาย ด้วยความดีใจที่จะได้ไปอยู่กับน้องสาวในต่างบ้านต่างเมืองนานๆ

ได้ฟังแม่บ่น และเฝ้าถามผมว่า เมื่อไหร่เครื่องจะถึงที่หมาย ผมได้แต่อึ้ง ไม่รู้จะตอบแม่ยังไง ได้แต่หวังว่า พอแม่ตื่นขึ้นมาอีกที แม่น่าจะนึกออกว่าผมไม่ใช่กัปตัน

เอ๊ะ! หรือแม่จะอยากให้ผมไปเร่งกัปตัน ประมาณว่า "กัปตันครับ เร่งเครื่องหน่อย แม่ผมรีบ" T_T

ได้แอบขำตอนพ่อพยักหน้าคุยกับแอร์ฯ เป็นเรื่องเป็นราว พอผมถามว่า คุยอะไรบ้าง พ่อตอบผมหน้าตาเฉยว่า "ไม่รู้"

นี่ขนาดยังไม่ถึงที่หมาย เรื่องที่ผมมาแอบเผาท่านทั้งคู่ ยังไม่ได้หนึ่งในสิบเลยนะครับ ^^ (Post นี้ เกิดขึ้นในน่านฟ้าสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเมตร และเหลือเวลาอีกกว่า 7 ชั่วโมงจึงจะถึงปลายทาง)

ก็แบบที่ผมเล่านี้ไงครับ ที่ผมว่าไว้เมื่อวานว่า เรื่องราวรายทางนี่แหละ ที่ทำให้ปลายทางของทริปมีชีวิต มีสีสัน และมีอะไรให้จดจำ

บางครั้งความสุขของคนเราก็เรียบง่ายเช่นนี้เอง...

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...