Skip to main content

Post#2-80: รายทางระหว่างทริป#1

Post#2-80:
ขณะที่พิมพ์ Post นี้อยู่ ผมพบตัวเองอยู่ที่ท่าอากาศยานอินชอน ในเกาหลีใต้ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่องเดินทางต่อไปยังปลายทาง (ตีห้ากว่าๆ กับอาการง่วงนอน แต่ดันนอนไม่หลับ)

ว่ากันที่จริง ในช่วง 10 ปีมานี้ ผมไม่ได้มีโอกาสเดินทางบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ต้องนับว่ายังได้ไปต่างประเทศบ่อยกว่าค่าเฉลี่ยของคนไทยโดยทั่วไป ด้วยเหตุแห่งภาระหน้าที่ที่มีอยู่

ในความเหนื่อยหน่ายของการเดินทางนั้น ผมพบว่ามันก็มีความน่าสนใจอยู่บ้าง ตรงที่ผมได้มีโอกาสพบเจอผู้คนและวัฒนธรรมที่แตกต่างและหลากหลาย...ซึ่งตรงนี้ถือเป็นกำไรชีวิต

ยิ่งถ้าเป็นการเดินทางเพื่อไปเที่ยว ไม่ใช่ไปทำงานนี่ ผมบอกได้เลยครับว่า กำไรเป็น 2 เท่า

...

ถ้าใครมีโอกาสและทุนทรัพย์ที่เอื้ออำนวย ผมก็จะเชียร์ให้เดินทางท่องเที่ยว...และจะให้ดีก็ควรจะไปเที่ยวแบบไม่ต้องใช้บริการของบริษัททัวร์

ไม่รู้สิครับ...สำหรับผมแล้ว...ส่วนใหญ่แล้ว การไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ (ไม่ใช่ทุกบริษัทนะครับ) ผมพบว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงปริมาณมากกว่า ซึ่งต่างจากการไปเที่ยวด้วยตัวเอง ที่ให้ความรู้สึกของการท่องเที่ยวชัดเจนและเต็มอารมณ์กว่ามาก

ใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวโดยไม่พึ่งบริษัททัวร์นี่ ผมขอชวนให้ลองดูครับ เพราะช่วงที่สนุกไม่แพ้ตอนไปเที่ยวน่ะ ก็อยู่ตรงการวางทริปนี่แหละครับ...อารมณ์จะประมาณเตรียมงานเลี้ยงนั่นแหละครับ เตรียมนั่น เติมนี่ ติดนู่นนิด เพิ่มนี่หน่อย ฯลฯ

จะไปที่ไหนบ้าง, จะไปยังไง, แถวนั้นมีอะไรน่าสนใจ, มีร้านอะไรอร่อยๆ บ้าง, มีของฝากอะไรน่าซื้อมั๊ยนะ (น่าซื้อกับขึ้นชื่อน่ะ ไม่ใช่อันเดียวกันนะครับ เพราะน่าซื้อ = เราชอบ ส่วนขึ้นชื่อ = คนอื่นชอบ) และอีกหลายอย่างที่เราต้องค้นหาข้อมูลล่วงหน้า

ทริปที่เราวางแผนเองจะติดอยู่ในความทรงจำได้นานกว่าและสร้างความประทับใจได้มากกว่าทริปที่เรากำเงินไปจ่ายบริษัททัวร์ให้พาเราไปที่ๆ เราไม่ชอบเท่าไหร่, กินอาหารที่ไม่อร่อย, ไปซื้อของในร้านที่เราไม่ชอบ และได้รับประสบการณ์ "ชะโงกทัวร์" ที่เราแทบจะจดจำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้

...

เรื่องราวรายทางนี่แหละครับ ที่เป็นตัวขับให้เรื่องราวที่จุดหมาย มีชีวิต มีสีสัน และมีอะไรให้จดจำ

ครั้งล่าสุดที่ผมพาลูกและภรรยาไปทัวร์กัน 3 คน พ่อ-แม่-ลูก ยังคงแจ่มชัดในใจผม เสมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เองครับ ทั้งที่ผ่านมาแล้วกว่า 3 ปี

ลองดูนะครับ...เลือกช่วงปีใหม่นี้ก็ได้ครับ ชวนคนที่เรารักไปสร้างประสบการณ์ด้วยกัน แทนการให้ของขวัญ...ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นทริปสั้นๆ หรือทริปยาวๆ นะครับ

...เพราะช่วงเวลาที่ได้อยู่กับคนที่เรารักน่ะ แม้จะสั้นเท่าไหร่ก็ยังความสุขใจให้เราได้เสมอ...เห็นด้วยมั๊ยครับ...

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...