Post#2-65:
ผมจบภารกิจที่จาการ์ต้า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง เรียกว่าประชุมสำคัญชั่วโมงเต็ม แลกกับการมาเยือนอินโดนีเซีย 2 วัน
ก็อย่างที่เล่าเรื่อง "ห่านทองคำ" ให้ฟังเมื่อวานล่ะครับ ทำยังไงลูกค้าจึงจะอยู่รอดกับสงครามการขายสินค้าที่แสนจะสาหัสในช่วงนี้?
ไม่ใช่แต่เฉพาะประเทศเราเท่านั้น แต่ที่อินโดฯ ก็เช่นกัน ที่หลายสิ่งหลายอย่างก็อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน...อะไรๆ ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ใจเราต้องการ
ช่วงที่เราขายสินค้าให้เค้าในช่วงต้นๆ เราก็ยังไม่เข้าใจตลาดมากพอที่จะแนะนำลูกค้าของเรา ในขณะที่แม้ลูกค้าจะรู้จักตลาดดี แต่ก็คาดไปไม่ถึงว่า ปัจจัยภายนอกจะมีการผกผันแบบที่เผชิญอยู่ในขณะนี้
ดังนั้นแล้ว สำหรับพวกเค้า เป้าหมายที่ตั้งไว้ ดูจะไกลเกินที่จะเดินไปถึงซะเหลือเกิน...
หลังจากรับฟังปัญหาจนเข้าใจแล้ว ผมก็เริ่มชวนคุยเสนอด้วยแนวทางอุปมาอุปมัยที่ผมถนัดให้พวกเค้าฟังว่า ผมใช้เวลาบนท้องถนนในกรุงจาการ์ต้านานมาก กว่าจะฝ่าการจราจรที่เข้าขั้นสาหัสมาได้นี่ ผมถอนหายใจไปไม่รู้กี่ครั้ง
ไอ้ครั้นจะรอให้รถหายติด แล้วค่อยเดินทางก็เป็นไปไม่ได้ เพราะกำหนดการทุกอย่างถูกวางไว้หมดแล้ว...แต่สุดท้ายผมก็ฝ่ารถติดสาหัสที่ว่ามาประชุมกับพวกเค้าไดันี่นา
ลงท้ายแล้ว ผมบอกพวกเค้าว่า ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อปลอบใจ แต่มาช่วยหาวิธีแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น
เราเลือกที่จะทอดอาลัยกับรถติดแบบไม่มีทางแก้ แล้วก็อยู่แต่ในบ้านก็ได้ หรือเลือกจะขับรถออกจากบ้าน ค่อยๆ คืบหน้าที่ละนิด พูดคุยกันระหว่างรถติด, ฟังเพลงบ้าง, แอบหลับบ้าง, ผลัดกันขับบ้าง หรือไม่ก็ทำกิจกรรมอย่างอื่น
...และสุดท้ายเราก็จะไปถึงที่หมาย ช้าไปบ้าง อารมณ์หงุดหงิดบ้าง ก็ไม่เป็นไร แต่เราก็จะมาได้ไกลกว่าทอดอาลัยแล้วหลบอยู่แต่ในบ้านอย่างแน่นอน
...
เมื่อเราเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลูกค้า...พวกเค้าก็เริ่มที่จะหันเหการสนทนาไปที่การโฟกัสถึงแนวทางผลักดันยอดขาย ต่างจากช่วงต้นๆ ที่เป็นการวิเคราะห์และพร่ำบ่นถึงสาเหตุที่ทำยอดขายไม่ได้
สิ่งที่ผมแชร์ในวันนี้ อาจดูเหมือนปรัชญาที่มิอาจจับต้องได้...แต่ถ้าแค่เอาแต่พร่ำบ่นแล้วปัญหาคลี่คลายไปได้ โลกนี้คงมีแต่คนที่ประสบความสำเร็จ...ซึ่งผมมั่นใจว่า คนที่ประสบความสำเร็จน่ะ เริ่มต้นด้วยการเลิกบ่นถึงสิ่งที่ขาดและต่อยอดจากสิ่งที่มีต่างหาก
...
คู่ค้าหลายๆ องค์กรที่ผมสัมผัส ก็มีทั้งแบบที่ช่วยผลักช่วยดัน ติติง แนะแนว ไปจนกระทั่งองค์กรที่ไม่สนความเป็นไปของผู้มีส่วนได้เสีย
...แล้วแต่ครับ ใครใคร่ชนะสั้นแต่เท่านั้นก็ตามสะดวก แต่ผมเชื่อมั่นในเรื่องของการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียให้ "ชนะ" ไปด้วยกัน...ย้ำอีกทีว่า ชนะใหญ่หรือเล็กไม่ใช่ประเด็น
แต่ชนะไปด้วยกันรึเปล่าต่างหาก -"-
ผมจบภารกิจที่จาการ์ต้า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง เรียกว่าประชุมสำคัญชั่วโมงเต็ม แลกกับการมาเยือนอินโดนีเซีย 2 วัน
ก็อย่างที่เล่าเรื่อง "ห่านทองคำ" ให้ฟังเมื่อวานล่ะครับ ทำยังไงลูกค้าจึงจะอยู่รอดกับสงครามการขายสินค้าที่แสนจะสาหัสในช่วงนี้?
ไม่ใช่แต่เฉพาะประเทศเราเท่านั้น แต่ที่อินโดฯ ก็เช่นกัน ที่หลายสิ่งหลายอย่างก็อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน...อะไรๆ ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ใจเราต้องการ
ช่วงที่เราขายสินค้าให้เค้าในช่วงต้นๆ เราก็ยังไม่เข้าใจตลาดมากพอที่จะแนะนำลูกค้าของเรา ในขณะที่แม้ลูกค้าจะรู้จักตลาดดี แต่ก็คาดไปไม่ถึงว่า ปัจจัยภายนอกจะมีการผกผันแบบที่เผชิญอยู่ในขณะนี้
ดังนั้นแล้ว สำหรับพวกเค้า เป้าหมายที่ตั้งไว้ ดูจะไกลเกินที่จะเดินไปถึงซะเหลือเกิน...
หลังจากรับฟังปัญหาจนเข้าใจแล้ว ผมก็เริ่มชวนคุยเสนอด้วยแนวทางอุปมาอุปมัยที่ผมถนัดให้พวกเค้าฟังว่า ผมใช้เวลาบนท้องถนนในกรุงจาการ์ต้านานมาก กว่าจะฝ่าการจราจรที่เข้าขั้นสาหัสมาได้นี่ ผมถอนหายใจไปไม่รู้กี่ครั้ง
ไอ้ครั้นจะรอให้รถหายติด แล้วค่อยเดินทางก็เป็นไปไม่ได้ เพราะกำหนดการทุกอย่างถูกวางไว้หมดแล้ว...แต่สุดท้ายผมก็ฝ่ารถติดสาหัสที่ว่ามาประชุมกับพวกเค้าไดันี่นา
ลงท้ายแล้ว ผมบอกพวกเค้าว่า ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อปลอบใจ แต่มาช่วยหาวิธีแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น
เราเลือกที่จะทอดอาลัยกับรถติดแบบไม่มีทางแก้ แล้วก็อยู่แต่ในบ้านก็ได้ หรือเลือกจะขับรถออกจากบ้าน ค่อยๆ คืบหน้าที่ละนิด พูดคุยกันระหว่างรถติด, ฟังเพลงบ้าง, แอบหลับบ้าง, ผลัดกันขับบ้าง หรือไม่ก็ทำกิจกรรมอย่างอื่น
...และสุดท้ายเราก็จะไปถึงที่หมาย ช้าไปบ้าง อารมณ์หงุดหงิดบ้าง ก็ไม่เป็นไร แต่เราก็จะมาได้ไกลกว่าทอดอาลัยแล้วหลบอยู่แต่ในบ้านอย่างแน่นอน
...
เมื่อเราเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลูกค้า...พวกเค้าก็เริ่มที่จะหันเหการสนทนาไปที่การโฟกัสถึงแนวทางผลักดันยอดขาย ต่างจากช่วงต้นๆ ที่เป็นการวิเคราะห์และพร่ำบ่นถึงสาเหตุที่ทำยอดขายไม่ได้
สิ่งที่ผมแชร์ในวันนี้ อาจดูเหมือนปรัชญาที่มิอาจจับต้องได้...แต่ถ้าแค่เอาแต่พร่ำบ่นแล้วปัญหาคลี่คลายไปได้ โลกนี้คงมีแต่คนที่ประสบความสำเร็จ...ซึ่งผมมั่นใจว่า คนที่ประสบความสำเร็จน่ะ เริ่มต้นด้วยการเลิกบ่นถึงสิ่งที่ขาดและต่อยอดจากสิ่งที่มีต่างหาก
...
คู่ค้าหลายๆ องค์กรที่ผมสัมผัส ก็มีทั้งแบบที่ช่วยผลักช่วยดัน ติติง แนะแนว ไปจนกระทั่งองค์กรที่ไม่สนความเป็นไปของผู้มีส่วนได้เสีย
...แล้วแต่ครับ ใครใคร่ชนะสั้นแต่เท่านั้นก็ตามสะดวก แต่ผมเชื่อมั่นในเรื่องของการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียให้ "ชนะ" ไปด้วยกัน...ย้ำอีกทีว่า ชนะใหญ่หรือเล็กไม่ใช่ประเด็น
แต่ชนะไปด้วยกันรึเปล่าต่างหาก -"-
Comments
Post a Comment