Post#2-56:
มานั่งคิดดูแล้ว ความต้องการของลูกค้านี่มีอิทธิพลสูงยิ่งกับความอยู่รอดของธุรกิจจริงๆ ครับ
ยุคก่อนๆ (ก่อนการมาของ iPhone) มือถือถูกแข่งกันในเรื่องความ "เล็ก" เรียกว่าใครทำขนาดได้เล็กกว่า คนนั้นครองตลาด ว่ายังงั้น
แต่พอมายุคนี้ เมื่อผู้คนบริโภคข่าวสารข้อมูลต่างๆ ผ่านอินเทอร์เนตมากขึ้น มือถือจอเล็กไม่ใช่ตัวตอบโจทย์อีกต่อไป และทวีความซับซ้อนมากขึ้นๆ จากเดิมเป็นแค่ "ฟีเจอร์โฟน" ก็ต้องเป็น "สมาร์ทโฟน" เท่านั้น จึงจะครองตลาดได้
ค่ายมือถือต่างๆ จึงเปลี่ยนเป็นแข่งกันทำจอ "ใหญ่" แทน ไม่เว้นแม้แต่ iPhone ที่ Steve Job เคยว่าไว้ ว่าขนาดที่เค้าออกแบบไว้ เหมาะสมที่สุด
แต่จากยอดจอง iPhone6 และ iPhone6+ คงเป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดีที่สุด ว่าแม้ Steve จะเก่งเพียงใด ก็ไม่มีวันฝืนกระแสความต้องการของลูกค้าได้
...
ปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า "มือถือ" กลายเป็น "ปัจจัยที่ 5" มากกว่าสิ่งของอื่นๆ ไปแล้ว
ค่ายมือถือที่ปรับตัวตามความต้องการของลูกค้าไม่ทัน แม้จะเคยเป็น "ผู้ยิ่งใหญ่" แต่มาวันนี้ต่างทยอยกันล้มหายตายจาก ถูก "เทคโอเวอร์" ไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่ว่าจะเป็น Nokia ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้ร่มเงาของ Microsoft หรือ Motorola ที่เพิ่งจะปิดดีลไปกับ Lenovo ก็ตาม
...
คนเราเองก็ต้องไม่ยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ เช่นกัน...
เพราะไม่มีอะไรที่เป็นแผนธุรกิจที่ "ดีที่สุด" เราจึงต้องพยายามในทุกๆ วัน เพื่อทำแผนธุรกิจที่ "ดีกว่า" ต้องพลิกแพลงและผันเปลี่ยนตามต้องการของลูกค้า ที่นับวันจะทวีความซับซ้อนและคาดเดาได้ยากขึ้นและยากขึ้นทุกที
เราจะก้าวไปข้างหน้าได้ จึงไม่แค่ต้องลืมความล้มเหลวในอดีต แต่รวมถึงต้องละทิ้งความสำเร็จที่เคยมีมาด้วย...อย่าลืมว่า ไม่มีใครเป็น "แชมเปี้ยน" ได้ตลอดกาล
ดังนั้น เราจึงต้องคอยเตือนตัวเองให้ใช้ชีวิตเหมือนเป็น "ผู้ท้าชิง" บ่อยๆ ครับ
เมื่อถึงเป้าหมายใดๆ ก็ต้องตั้งเป้าหมายใหม่ทันที อย่ารอให้ความสำเร็จมาฆ่าเราในภายหลัง และเช่นกันที่ไม่ควรมัวแต่ฟูมฟายกับความล้มเหลวที่ผ่านมา...
นี่แหละ...ชีวิต
Comments
Post a Comment