Post#2-68:
วันนี้ที่ office แห่งหนึ่งของผม เกิดเหตุจับ "ขโมย" ได้ ก็เลยมีเรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้นนิดหน่อย
เหตุเกิดจาก มีพนักงานคิดสั้นคนหนึ่ง แอบหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์เพื่อนร่วมงาน ตอนเค้าไปเข้าห้องน้ำบ้าง, ไปทานข้าวบ้าง หรือไปประชุมบ้าง
โชคไม่ดีของพนักงานคิดสั้นคนนั้น ที่เราจับเค้าได้ด้วยกล้องวงจรปิด
...
เมื่อเกิดเหตุขโมยขึ้นใน office ไม่ว่าจะจับคนขโมยได้หรือไม่ก็ตาม ความเสียหายที่มากไปกว่า "ทรัพย์สิน" ก็คือ "ความไว้เนื้อเชื่อใจ" ระหว่างคนที่ทำงานใน office เดียวกัน
จากที่เคยมีความรู้สึกว่า "อยู่บ้าน" ก็จะเกิดความรู้สึกเหมือนอยู่ "ต่างถิ่น" เพราะต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
แก้วที่มันแตก จะต่อใหม่ด้วยกาว ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม ดังนั้น คอยระวังอย่าให้แก้วแตก น่าจะดีที่สุด...เฉกเช่น ความไว้ใจระหว่างกัน
ว่าแล้ว ก็ต้องเตือนให้ทุกคน "ปิดโอกาส" ทางอบายให้เหลือน้อยที่สุด
ทรัพย์สินมีค่า ก็อย่าละเลย ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้ ก่อนจะเดินห่างโต๊ะ ชำเลืองดูรอบๆ ซักนิด ล๊อคลิ้นชักซักหน่อย เอ่ยปากฝากเพื่อนให้ช่วยดู หรือถือกุญแจดอกเล็กๆ ดอกเดียวไปด้วย ก็คงไม่หนักหนา
อย่าคิดว่า ไม่เป็นไรหรอก หายก็ช่าง นิดๆ หน่อยๆ เพราะผมติงไว้แล้ว ว่ามากกว่า "ทรัพย์สิน" มันคือ "ความไว้ใจ" ระหว่างเพื่อนร่วมงาน
...
ผมเคยเล่าไว้ใน Post#45 (นานมากแล้ว) ว่า บางครั้งคนดีๆ ก็กลายเป็นขโมยได้เพราะความจำเป็นมาประจวบกับ "โอกาส" มันเอื้อพอดี
เหมือนเรา "ฝากเนื้อไว้กับเสือ" นั่นแหละครับ ยากนักที่เสือจะอดใจไว้ได้
ดังนั้น การไม่เปิดโอกาสให้คนทำชั่ว จึงเป็นการช่วยให้ "คนดีที่ถูกความจำเป็นบังคับ" ให้ยังเป็นคนดีอยู่ได้อีกวิธีหนึ่ง
ผมเห็นมาก็มาก จับติดคุกก็ซะหลายคน เหตุเพราะส่วนหนึ่ง เราเองนี่แหละที่ "เผลอ" และ "วางใจ" จนกลายเป็นโอกาสให้ด้านมืดของคนแสดงออกมา
ช่วยกันรักษามิตรภาพและความไว้เนื้อเชื่อใจใน office ของเรา ด้วยการปิดโอกาสที่เอื้อต่อการทำชั่วกันเถอะครับ
เพราะเสียทรัพย์ ก็ยังพอหาใหม่ได้ แต่เสียขวัญนี่...บรรยากาศ "มาคุ" ดีๆ นี่เอง -"-
Comments
Post a Comment