Post#2-69:
ผมใช้เวลา 3 วันที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ ในการออกสำรวจตลาดในแถบภาคอีสาน
เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องออกไปสัมผัสพื้นที่จริงบ้าง ไม่ใช่มัวแต่นั่งเป็น "นางใน" วางแผนอยู่บนกระดาษ แล้วก็ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามยถากรรม
แผนที่วางไว้จะเลิศหรูยังไงก็แล้วแต่ หากถ้าผู้ลงมือปฏิบัติไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ แผนนั้นก็ไร้ค่า...ดังนั้น การลงพื้นที่จริง จึงเป็นทางเดียวที่จะได้เห็น "ผลลัพธ์" ของกระบวนการทั้งหมด
เราไม่อาจสรุปความสำเร็จหรือล้มเหลวของการทำตลาดได้ หากทำแค่ "เปิดหู" แต่ "ปิดตา" หมายความว่า ฟังแต่รายงาน แต่ไม่เคยไปเห็นความจริง
มุมมองของผู้ปฏิบัติกับมุมมองของผู้วางแผนนั้น มีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ที่ scope ของมุมมอง เพราะผู้ปฏิบัติโฟกัสไปที่ "กระบวนการ" ในขณะที่ผู้วางแผนจะโฟกัสไปที่ "ผลลัพธ์"
หากผู้วางแผนไม่อาจสรุปได้ว่า แผนการและกระบวนการส่งผลไปยังผลลัพธ์อย่างไร ก็ยากที่จะปรับปรุงกระบวนการที่ถูกที่ควรให้กับผู้ปฏิบัติได้
ฉะนั้นแล้ว "หน้างาน" จึงเป็นสิ่งที่มิอาจละเลยได้
นอกจากนั้น เรายังได้พูดคุยและฟังความต้องการจากร้านค้าโดยตรง เข้าใจวิธีคิดและเข้าใจปัญหาที่เค้ามีต่อการขายสินค้าของเรา
ที่สำคัญที่สุดก็คือ เราจะได้เห็นสภาพการแข่งขันจริง ณ พื้นที่ขายด้วย คู่แข่งขายอะไร, กำหนดราคาอย่างไร, มีโครงสร้างกำไรแบบไหน, ใช้สื่อการตลาดแบบไหน, ฯลฯ
เมื่อประมวลข้อมูลต่างๆ ที่ได้มาทั้งหมดแล้ว เราจึงจะสามารถจะนำมาปรับปรุงแผนงานใหม่ให้ถูกต้องตามสภาพการแข่งขันจริงได้อย่างตรงความต้องการของร้านค้ามากขึ้น รวมไปถึงทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องใน Supply Chain ทำงานสอดคล้องกันมากขึ้น
เวลาคุยกันถึงเรื่อง Research&Development ส่วนมากเราจะนึกถึงแต่ด้านสินค้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การปรับปรุงและพัฒนาช่องทางการค้านั้น ก็ไม่ได้มีความสำคัญที่ด้อยกว่าแต่อย่างใด
ทั้งหมดนี้ เพื่อตอบโจทย์ข้อเดียว ก็คือ "ยอดขาย" อันเป็นสุดยอดปรารถนาของทุกองค์กร (ส่วน Non-profit Organization จะเรียก "ยอดขาย" ว่า "เป้าหมาย" แทน)
สู้ต่อไปครับ...เหล่าลูกเรือผู้แสวงหาความมั่งคั่งจากท้องทะเลทุกท่าน ^^
Comments
Post a Comment