Post#4-331:
วันนี้เป็นอีกวันที่ผมมีประชุมถี่ยิบจนแทบไม่มีเวลาพักหายใจ และมีทั้ง Breakfast Meeting, Lunch Meeting รวมไปจนถึง Business Dinner ที่พึ่งผ่านไป
ตอนหนึ่งของการสนทนาระหว่างมื้อค่ำ, แขกของผมก็ถามว่า ประชุมเยอะขนาดนี้ ไม่เครียดบ้างเลยหรือ?
เอาจริงๆ แบบไม่สร้างภาพ...หลายๆ คน อาจจะเป็นเหมือนผม คือจะเครียดมากกว่าถ้าต้องนั่งว่างอยู่เฉยๆ
...
ลองคิดตามผมดูเล่นๆ นะครับ...ว่าสำหรับตัวเราแล้ว สถานการณ์ไหนจะน่าเครียดกว่ากัน...
ระหว่าง...ยุ่งจนไม่ค่อยจะมีเวลาว่าง
กับว่างเสียจนไม่มีอะไรให้ทำ
...
ไม่รู้สิครับ...ผมกลับรู้สึกว่า ยังไงการยุ่งเสียจนไม่ว่าง ก็ดีกว่า ว่างจนฟุ้งซ่าน เป็นไหนๆ
แม้ว่าการทำงานหนักจะดูน่าเหนื่อยใจและยุ่งยาก แต่การนั่งว่างๆ โดยไม่มีงานทำหรือไม่รู้จะทำอะไรกับชีวิตดีนี่น่าจะทำให้เหนื่อยใจได้มากกว่า
เพราะงานยุ่ง...อย่างมากก็ยุ่งจนไม่รู้จะทำอะไรก่อนหรือหลังดี
แต่ว่างงาน...มันหนักหนาตรงที่ว่า ไม่รู้ว่าวันๆ จะทำอะไรให้กับชีวิตเลยน่ะสิครับ!
...
ดังนั้น เราจึงน่าจะขอบคุณเบื้องบนที่บันดาลให้ชีวิตเรามีงานยุ่ง มากกว่าว่างงาน
ถ้างานมันยุ่งมากๆ...เรายังเลือกจะหยุดพักด้วยตัวเองได้
แต่เวลาตกงาน...เราไม่อาจจะเลือกหยุดพักความว่างงาน เพื่อไปทำงานได้
...ใครที่คิดว่า งานยุ่งมาก ก็คิดเสียว่า ทำงานมาก ก็ได้ประสบการณ์มาก และถ้ารู้สึกว่ามันมากไป เราก็ยังมีสิทธิ์เลือกจะเบาเครื่องลงได้ ดีมั๊ยครับ?...
#NoteToSelf:
- งานยุ่ง...ก็ยังดีที่มีจุดหมายให้มุ่งไป แต่ว่างงานนี่...ไม่มีจุดหมายให้ชีวิตเลยนะ
- งานหนัก ยังไงก็ไม่น่าจะทำให้เราถึงตาย...แต่การไม่มีงานทำ ก็อาจทำให้เราเฉาตายหรืออดตายได้เลยนะ
- งานยุ่งได้...แต่ใจต้องไปยุ่ง, ตารางงานยุ่งเหยิงได้...แต่ตารางส่วนตัวก็ต้องมี
Comments
Post a Comment