Skip to main content

Post#4-340: เรื่อยเปื่อยที่ Mitsui Outlet (Taiwan)

Post#4-340:
เช้าวันเสาร์สบายๆ ในกรุงไทเป...ทำให้ผมรู้สึกถึงการได้ "พัก" เต็มที่ เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ เดือน

ส่วนใหญ่ของการเดินทางมาต่างประเทศ ก็จะเป็น Business Trip ดังนั้น focus ของผม ก็จะอยู่ที่การลงพื้นที่เพื่อ Market Survey แล้วก็มุ่งไปที่สาย Consumer Product ในหมวด FMCG เสียมากกว่า

 ต่อเมื่อมี "เวลาเหลือ" ผมจึงจะได้มีช่วง "Shopping Therapy" บ้าง

...

หลังจากเคลียร์งานที่ค้างอยู่ในช่วงเช้า...เพื่อนชาวไต้หวันก็มารับผม เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ Mitsui Outlet ซึ่งเป็น Shopping Attraction ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

หลายๆ คนที่ตาม blog นี้ คงจะทราบดีว่า ผมเป็นสาย shopping ไม่ใช่สาย scenery ดังนั้น ถ้าถามผมว่า ไปประเทศนั้น นู้น นี้ ควรจะไปเที่ยวไหน ก็แปลว่า ถามผิดคน

ส่วนถ้าจะถามเกี่ยวกับสินค้าสำหรับสาวๆ...บอกตรงๆ ว่าก็ถามผิดคนอีกเช่นกัน ^^

สรุปว่า ผมเป็น Shopping-sapiens สาย IT, Gad, Toy แล้วก็พวกรองเท้ากีฬา...ก็แล้วกันนะครับ

...

เอาจริงๆ ผมว่า หารีวิวเกี่ยวกับ Mitsui Outlet ได้ง่ายมากๆ ตาม web ต่างๆ...ดังนั้น ผมจะไม่ลงรายละเอียดว่ามี Brand อะไรขายบ้างนะครับ

อ้อ...ผมไม่ใช่พวก Collector ดังนั้น ถ้าถามว่ามี Limited Edition มั๊ย? หรือมี Latest Collection รึเปล่า?...ก็ถามผิดคนอีกเช่นกันนะครับ

เอาเป็นว่า วันนี้ขออกตัวว่า เป็นแค่การเล่าให้ฟัง เพื่อพอให้เห็นภาพกว้างๆ...จะขอเน้นไปที่ Assortment ของสินค้า แล้วก็แตะไปที่ราคานิดๆ หน่อยๆ ก็แล้วกันนะครับ

...

เริ่มกันที่ Nike ก่อนก็แล้วกันครับ

ร้านเล็กมากกกกก...เล็กกว่าที่ Gotemba Outlet (ที่เมืองชิสุโอกะ ของประเทศญี่ปุ่น) ค่อนข้างเยอะ

อืมม...แต่ก็มีสินค้าให้เลือกแบบละลานตาอยู่นะครับ...ถ้าหลงเข้ามา ก็ไม่น่าจะห้ามใจตัวเองให้กลับออกไปแบบมือเปล่าได้

ส่วนราคา...เอาจริงๆ ผมก็จำไม่ได้แบบเป๊ะๆ...แต่น่าจะถูกกว่าที่ Gotemba นิดหน่อย แล้วก็น่าจะถูกกว่าบ้านเราประมาณ 20-30%

...

เยือน Nike แล้ว ก็ต้องแวะ Adidas ตามธรรมเนียม...ไม่ค่อยแข่งกันเท่าไหร่ แค่ว่าที่นี่ ร้านตั้งติดกันเลย แค่นั้น

ร้านเล็กๆ อีกเหมือนกันครับ...เล็กกว่า Nike อีก...แต่งร้านดูโล่งๆ สบายๆ กว่า แล้วก็ไม่ค่อยมีสินค้าให้เลือกซื้อเลย

ส่วนใหญ่จะเป็น Collection แบบเรียบๆ...ส่วนราคาถูกกว่าบ้านเราแน่ๆ ครับ...แต่ไม่น่าจะมากขนาดลำบากต้องหิ้ว

...

ชั้นสองติดกับ Nike มีทางเดินเข้า Indoor Mall ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Food Court...ซึ่งมี choice ให้เลือกไม่มาก

จากประมาณ 13-14 ร้านค้า...โดยมากจะเป็นพวกราเมน แล้วก็มีอาหารอย่างอื่นอยู่บ้าง...ซึ่งผมไม่สามารถทดลองรสชาติได้ครบทุกร้าน...

มื้อนี้ผมเลือกข้าวแกงกระหรี่ไก่...ซึ่งรีวิวตรงๆ เลย ก็รสชาติออกหวาน ปริมาณเทียบกับราคาที่จ่าย ผมว่าแอบแพง

...

เติมพลังแล้ว ผมก็เดินสำรวจ Mitsui Outlet ต่อเพลินๆ ครับ...

ไปดูพวกนาฬิกากันบ้าง...หนีไม่พ้นต้องไปเยือน ร้าน G-Shock เสียหน่อย

บ้านเราภาษีนำเข้านาฬิกาไม่สูงครับ ดังนั้น ควรเช็คราคาดีๆ ก่อนช้ำใจ เพราะผมเคยซื้อ Model เดียวกันที่ญี่ปุ่น แพงกว่าบ้านเรา แถมไม่ได้ดูให้ดี กลายเป็น Made in Thailand ให้ช้ำใจเพิ่มอีก

ก็มี Collection ไม่มากไม่มายครับ รุ่นที่คุ้นๆ ก็พอมีให้เห็น...ส่วนราคาก็ถูกกว่าบ้านเรานิดหน่อยครับ 

แล้วก็มีร้าน Seiko กับ Citizen ที่ผมโฉบเข้าไปดู แต่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น

...

จากนั้น ผมก็เดินแบบ "ธุดงค์" ไปเรื่อยเลยครับ วนไปวนมา แวะซ้ายเวียนขวา ไปเรื่อยเปื่อยแบบไร้จุดหมาย

ได้แวะไปที่ร้าน Under Armor, Puma, New Balance, Lacoste, Uniqlo, Armani, NorthFace และอีกหลายสิบร้าน

ร้านของเล่น มีอยู่ร้านเดียว เป็นร้านเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ Food Court...สรุปสั้นๆ ว่า "ไม่โดนครับ"

โดยรวมผมว่าที่นี่ก็มี Brand หลากหลายไม่น้อย แต่ขนาดร้านค้าจะย่อมๆ หน่อย ไม่ใหญ่ไม่โต

Collection มีไม่มากนัก แล้วก็ไม่เน้น Latest Collection (ก็ Outlet นี่นา)...โดยมีราคาเป็น magnet ตามสูตรสำเร็จ

...ส่วนใหญ่ราคาสินค้าก็ดีครับ...เทียบบ้านเราแล้ว หลายๆ Brand ก็คุ้มค่า แต่อีกหลายๆ Brand ก็ไม่น่าคุ้มค่าแบก...

#NoteToSelf: 
  • นี่สินะ การ "ฆ่าเวลา" ที่แท้จริง...เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ เกือบ 3 ชั่วโมง แล้วก็มานั่งจิบกาแฟที่ร้าน Paul แบบ chill เหลือเกิน
  • Mitsui Outlet ถือเป็นที่ๆ ใช้ฆ่าเวลาได้พอเพลินๆ...แต่ไม่ได้มาก็ไม่น่าเสียดายอะไร
  • มาคราวหน้า จะไม่พลาดไปเยือน Taipei 101 แน่ๆ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...