Post#5-151:
กว่า 20 ปีที่ผมทำงานมา...มีลูกน้องรวมกันน่าจะนับได้กว่าพันชีวิต ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการไปจนถึงระดับบริหาร
หลายๆ คน เราไม่เคยได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ...ในขณะที่อีกหลายๆ คน กลายมาเป็นเพื่อนหลังจากสถานะเจ้านาย-ลูกน้อง สิ้นสุดลง ก็มาก
สรุปง่ายๆ ก็คือว่า ผมได้พานพบและคลุกคลีอยู่กับผู้คนมากหน้าหลายตา จากหลากหลายธุรกิจ และหลากหลายที่มา
...
การได้พบปะผู้คนที่หลากหลาย...ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ที่ทั้งสุขสันต์และขมขื่น ในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
และยิ่งเมื่อพรรษาในการทำงานมากขึ้นและมากขึ้น...ผมยิ่งยืนยันได้ว่า การต้องบริหารความสัมพันธ์กับผู้คนนี่เอง ที่ถือเป็นความท้าทายที่สุดของผู้บริหาร
เพราะ “คน” เป็นปัจจัยที่เราคาดเดาได้ยาก และหวังผลได้น้อยที่สุด...เมื่อเทียบกับทรัพยากรในการทำงานอื่นๆ
...
เมื่อคนเป็นปัจจัยที่คาดเดาได้ยาก และคาดหวังได้น้อย...เราจึงต้องมุ่งไปสู่การพัฒนาระบบงานให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
ตราบใดที่เรายังหวังพึ่งพาปัจจัยที่มีความไม่เสถียรสูง...ตราบนั้น องค์กรก็จะไม่อาจมุ่งไปสู่ความยั่งยืนได้โดยง่าย
แปลว่า ในอนาคตเราจะมีแต่จักรกลและระบบในการขับเคลื่อนองค์กร กระนั้นหรือ?
...
คำตอบแบบฟันธง ก็คือ “มันย่อมไม่ใช่ อย่างแน่นอน”
เพราะ แม้ว่าเราจะมีระบบที่แข็งแกร่งเพียงใด...ท้ายที่สุดแล้ว เราก็ยังมิอาจขับเคลื่อนองค์กรได้ โดยปราศจากคน
ด้วยเพราะองค์กรเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง...ซึ่งมีเจตจำนงและวิญญาณ
และเราต่างก็รู้ดีว่า เจตจำนงและวิญญาณนั้น ย่อมต้องเกิดจากคนในองค์กร
ดังนั้น...จงถามตัวเองดูเถิดครับ
...ว่าเราอยากจะเป็น เจตจำนงที่ดีหรือเลว และเป็นวิญญาณร้ายหรือเทพประจำองค์กร?...
#NoteToSelf:
- อย่ายึดติดกับตัวบุคคล...แต่จำต้องสร้างจิตสำนึกแห่งองค์กรให้สถิตย์อยู่ในใจของทุกคน
- จงเป็นความภาคภูมิใจแห่งองค์กร...มิใช่รอยด่างขององค์กร
- รถดีแต่ขาดคนขับ ก็มิอาจแล่น...องค์กรที่ยิ่งใหญ่แต่ขาดคนดีที่เก่ง ก็มิอาจยั่งยืน
Comments
Post a Comment