Post#5-162:
ผมมักจะดีใจทุกครั้ง ที่ได้ยินทีมงานสะท้อนมุมมองหรือความคิดของตัวเอง...หลังจากที่ได้รับข้อเสนอใดๆ จาก Vendor
ที่ดีใจก็เพราะ ยินดีที่ทีมงานของตัวเอง เป็นพวก “รู้คิด”...เพราะก่อนจะวิพากษ์งานใดๆ ได้ มันย่อมหมายความว่า ทีมต้องกลั่นกรองงานนั้นๆ มามากพอควรแล้ว
เมื่อวิพากษ์งานของผู้อื่นได้แล้ว...ก็ยังสามารถนำเสนอได้ด้วยว่า ก็แล้วจะปรับปรุงงานให้ดีกว่าที่ Vendor เสนอ ได้ยังไง
...
น่าเสียดายที่ทีมงานที่ทำงานได้ในระดับที่ว่านี้...ยังมีจำนวนน้อยมากเหลือเกินในปัจจุบัน
ส่วนมากจะเป็นแบบ ชอบวิพากษ์ เก่งวิจารณ์...แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้ดีกว่างานที่ตัวเองวิพากษ์วิจารณ์ได้ยังไง?
ด้วยเหตุนี้...ผมจึงชอบทีมงานที่ไม่ได้ “เก่งแต่ปาก” หากแต่เป็นพวก “ติเพื่อก่อ” อย่างแท้จริง
ข่าวดีก็คือ...เราเองก็สามารถพัฒนาตัวเองให้เป็นแบบทีมงานชั้นดีที่ว่าได้...ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ
...
เริ่มต้นด้วยการ “ฟัง” ให้เป็นก่อน
“ฟัง” นะครับ ไม่ใช่แค่ “ได้ยิน”...ไม่ใช่ให้คำพูดผ่านหูไปเฉยๆ แต่ต้องประมวลคำพูดที่ได้ยินให้ดีด้วย
หลังจาก “ฟัง” แล้ว เราก็ต้องหัด “คิด” ตามให้เข้าใจเนื้อหาที่กำลังฟัง
และถ้าไม่เข้าใจ...เราก็ต้องไม่ลังเลที่จะ “ถาม”
ไม่ใช่มัวจะกลัวว่าเราจะดูโง่มั๊ย ถ้าถามคำถาม...สู้เงียบไว้ ทำทีเป็นเข้าใจ จะดีกว่า...ว่าอย่างนั้น
ใครกลัวโง่...สุดท้ายจะกลายเป็นโง่จริง นะครับ
...
หลังจาก “ฟัง”, “คิด” และ “ถาม” เป็นอย่างดีแล้ว...เราจึงจะสามารถ “เขียน” ออกมาเป็น “ข้อสรุป”, “ความเห็น” หรือ “ข้อควรปรับปรุง” ได้
ถ้าทำได้ครบทุกข้อที่ว่ามา...ก็ถือได้แล้วครับ ว่าเราอยู่ในระดับเดียวกับทีมงานชั้นดีที่ผมชื่นชมไว้ในตอนต้น
...ถ้าไม่เรียกทีมงานที่มี “หัวใจนักปราชญ์” อยู่ในตัว ว่ายอดเยี่ยม...ผมก็ไม่รู้จะหานิยามที่ดีกว่านี้ได้ที่ไหนแล้วครับ...
#NoteToSelf:
- ดีใจกว่าถูกรางวัล Jackpot...ก็คือการได้เห็นทีมงานมี “หัวใจนักปราชญ์” อยู่กับตัว นี่ล่ะ
- ทีมงานที่เข้มแข็ง...ไม่ใช่แค่จะเป็น “ผู้ตาม” ที่ดี หากแต่บางครั้งพวกเค้าอาจขึ้นมาเป็น “ผู้นำ” ได้ด้วย
- ทีมงานที่เป็นได้ทั้ง “ผู้ตาม” และ “ผู้นำ”...จึงเป็นทีมงานที่ควรภาคภูมิใจในตัวเอง และหัวหน้างานควรยินดี
- “ภาคภูมิใจ” ที่สามารถมายืนเคียงบ่าเจ้านายได้...และ ”ยินดี” ที่ลูกน้องสามารถมายืนเคียงไหล่เราได้อย่างแข็งแรง
Comments
Post a Comment