Skip to main content

Post#5-165: Live the same year for 75 times...

Post#5-165:
ใครบ้างครับ...ที่ใช้ชีวิตเหมือนเดิม, ซ้ำเดิม และเดิมๆ ติดๆ กันมาเป็นเวลาหลายๆ ปี?

เบื่อบ้างมั๊ยครับ?

หรือว่าเคยชินกับความซ้ำเดิมหรือเดิมๆ ไปเสียแล้ว?

ถ้าไม่ทันสังเกตเลย ว่าเราย่ำเท้าอยู่กับที่, อยู่กับความเดิมๆ หรืออยู่กับวัฏจักรเวียนวนมานาน...ระวังตัวไว้บ้างก็ดีครับ

เพราะรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที...มันอาจจะไกลเกินกว่าจะย้อนกลับ...มีแต่ต้องเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ไม่มีอนาคตไปอย่างน่าเจ็บใจ

...

Robin Sharma (นักเขียนและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ชาวแคนาดา) กล่าวไว้อย่างน่าฟังมากๆ ว่า

“Don’t live the same year 75 times, and call it a life!”

แปลแบบแสบๆ คันๆ ได้ว่าอย่าใช้ชีวิตแบบเดิมๆ 75 ปี แล้วเรียกมันว่า ชีวิต!”

...

นั่นสิครับ...

ถ้าเราตื่นขึ้นมาทุกเช้า แล้วพบว่าเราใช้ชีวิตแบบเดิมๆ เหมือนกันทุกวัน, ทุกเดือน และทุกปี...เราก็น่าจะต้องถามตัวเองจริงๆ จังๆ แล้วล่ะครับ

ว่าตกลงแล้ว...เราจะใช้ชีวิตแบบนั้น ไปเพื่ออะไรกันแน่?

ถ้ารู้สึกตัวแล้ว...ก็จงถามตัวเองต่อไปว่า ก็แล้วเราจะมีชีวิตแบบนั้นไปถึงเมื่อไหร่กัน?

ถ้ารู้สึกตัวแล้ว...พรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นวันแรกของวันที่เหลืออยู่...ดังที่คุณวินทร์ได้ว่าไว้

ที่เหลือก็อยู่ที่เราแล้วล่ะครับ

...ว่าจะ Make each day count หรือจะ Live the same life day by day...

#NoteToSelf: 

  • อย่าเข้าใจผิด...”ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่เหมือนกับใช้ชีวิตจำเจหรอกนะ!
  • โลกนี้มันกว้างใหญ่ และชีวิตนี้ยังต้องก้าวไป...ดังนั้น จงอย่าย่ำเท้าอยู่กับที่
  • อย่าตีโพยตีพายและอย่าพึ่งถามว่า แล้วจะเหลือเวลาให้ใช้ชีวิตแบบใหม่ ได้อีกกี่ปีกันเชียว...แต่จงถามตัวเองว่า จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ๆ เมื่อไหร่ดี ต่างหาก!
  • จงใช้วันแรกของวันที่เหลือในแบบที่เราจะไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ...ยามวันที่ดินกลบหน้ามาถึง

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...